อ่านละคร ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 7 วันที่ 30 เม.ย. 57

อ่านละคร ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 7 วันที่ 30 เม.ย. 57

เก รซพยายามห้ามแต่ไม่ค่อยได้ผล ธัญกรถลันไปดึงตัววีด้าและบังคับให้ยกเลิกงานหมั้น เสียงเอะอะทำให้ทุกคนในบ้านแตกตื่น ยศสรัลพุ่งเข้ามาคนแรก ตกใจมากที่เห็นน้องชายคนเล็กทำตัวรุ่มร่ามกับวีด้า แต่คนที่ตามมาเป็นคนที่สองโกรธจัดกว่า คัชพลไม่รอช้าปราดไปกระชากตัวธัญกรออกจากว่าที่คู่หมั้นสาว

“ไอ้เล็ก...แกเป็นบ้าอะไร นี่แกเมานี่ ออกไปเลยนะ แล้วก็ไม่ต้องเข้ามาในงานด้วย ฉันไม่อนุญาต”

“แล้วผมขอเข้างานหรือไง งานหมั้นเก๊ๆเนี่ย นึกว่าผมอยากอยู่นักเหรอ”


สองพี่น้องจ้องหน้ากันตาแทบถลน คัชพลเอะใจนิดหน่อยที่น้องชายพูดว่างานหมั้นเขาเป็นงานเก๊ แต่ไม่ทันถามบัญชากับสินีก็เข้ามาเสียก่อน วีด้ากับยศสรัลพยายามแยกคู่กรณีออกจากกัน คัชพลขืนตัวไว้ โมโหมากที่น้องชายกล้าหยามหน้ากลางงานเช่นนี้ ส่วนธัญกรถลาตามแรงดึงของยศสรัล แต่ไม่วายโพล่งออกไปอย่างเหลืออด

“ผู้หญิงที่ผมชอบก็คือคุณวีด้าไง...ที่พี่ใหญ่สอนให้ผมแย่งมาให้ได้ รู้ไว้ด้วย!”

คัชพลจะชกหน้าให้หายแค้น สินีกับยศสรัลรีบเข้าไปขวาง ขอร้องไม่ให้มีเรื่องรุนแรงเพราะธัญกรเมาไม่รู้เรื่อง แต่เหมือนชายหนุ่มต้นเรื่องจะไม่ยี่หระกับคำแก้ต่างของแม่และพี่ชาย เมื่อได้ออกไปนอกห้องก็ตรงไปอาละวาดทำลายข้าวของสำหรับงานหมั้นจนบัญชาหัว เสียมาก ปราดเข้าไปตบลูกชายคนเล็กเต็มแรง

“ถ้าแกยังไม่หยุด ฉันก็จะตบจนกว่าจะหายบ้า”

สินีหน้าซีด กลัวลูกชายคนเล็กถูกตีจนน่วม ขอร้องสามีอย่าทำอะไรรุนแรง แต่บัญชาไม่สนใจ

“อุตส่าห์ไปทำงาน ก็นึกว่าจะดีขึ้น ที่ไหนได้...เลวกว่าเดิม ถ้าอยากเมาอยากบ้าก็ไปที่อื่น ไอ้ลูกนอกคอก!”

“ลูกนอกคอก...มันดีเกินไปมั้งครับ ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าผมใช่ลูกพ่อจริงหรือเปล่า”

ท่าทางอวดดีของลูกชายคนเล็กทำให้บัญชาหมดความอดทน ตวัดมือตบหน้าเขาฉาดใหญ่พร้อมตวาดลั่น “ไอ้เล็ก...ถ้าแกพูดอย่างนี้ แกก็ออกจากบ้านฉันไปเลย แล้วนับจากนี้ แกกับฉันขาดกัน!”

ooooooo

เหตุการณ์หลังจากนั้นเป็นเรื่องวุ่นวายจนจัดการแทบไม่ถูก เริ่มจากธัญกรผลุนผลันขับรถออกจากบ้านอีกครั้ง แม้สินีจะห้ามและขอร้องเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มเจ็บปวดและอยากหนีจากความทุกข์ทรมานโดยเร็วที่สุด ยศสรัลมองวีด้าด้วยสายตาเย็นชา เหมือนจะต่อว่าเธอเป็นนัยๆว่าสะใจแล้วใช่ไหม ที่ทำให้ครอบครัวเขาเป็นแบบนี้

งานหมั้นจำต้องล้มเลิกเพราะสภาพบ้านเละเทะดูไม่ได้ คัชพลโกรธจนตัวสั่นเทิ้ม แต่ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อบัญชามีอาการแน่นจุกที่หน้าอกจนล้มลงกับพื้น สินีมองเหตุการณ์ทุกอย่างด้วยความสับสน พลันภาพในอดีตตอนซินแสมาผูกดวงคัชพลกับวีด้าก็ย้อนกลับมาในหัวว่าสองหนุ่ม สาวไม่ใช่คู่และมีดวงเป็นกาลกิณีกับครอบครัวเธอ รวมทั้งเสียงของมณฑิตาที่เคยโทร.มาบอกว่าวีด้ากับธัญกรมีท่าทางสนิทสนมกัน เป็นพิเศษ

สังหรณ์แรงกล้าทำให้สินีขนลุก เธอตรงไปหาลูกชายคนกลางเพื่อถามความจริงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างวีด้ากับ ธัญกร ยศสรัลหลบตากลัวแม่เครียด แต่สุดท้ายก็ปิดไม่ไหวต้องสารภาพว่าธัญกรหลงรักวีด้า และเขาเคยลองทุกทางแล้วให้น้องชายคนเล็กออกห่างจากเธอ สินีไม่อยากจะเชื่อ ต่อว่าลูกชายเสียงเครียดที่ไม่ยอมเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง

“แล้วมันหมายความว่ายังไงที่ตาเล็กพูดว่าวีด้าไม่อยากหมั้น”

“เรื่องนี้ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ”

“ถ้ามันจริง แสดงว่าวีด้าเขาไม่ได้รักตาใหญ่ ตกลงเขารักใครกันแน่ ตาเล็กหรือตาใหญ่”

ท่าทางอึกอักของยศสรัลทำให้สินีนั่งไม่ติด ตัดสินใจคาดคั้นจากวีด้าแทนว่ารู้สึกยังไงกับธัญกร เกรซใจไม่ดี กลัวเพื่อนถูกเอาเรื่องและความอาจแตก แต่วีด้ากลับนิ่งเฉยไม่ปริปากใดๆจนสินีเดือดจัด

“เธอบอกฉันมา ถ้าเธอไม่รักตาใหญ่แล้วเธอยอมหมั้นกับเขาทำไม เธอกำลังปั่นหัวลูกฉันใช่ไหม ฉันไม่สนหรอกนะว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหน แต่เธอเป็นต้นเหตุให้ลูกชายฉันทะเลาะกันจนจะฆ่ากันตาย ในฐานะแม่...ฉันขอบอกว่าไม่อยากได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ ในเมื่องานหมั้นมันล่มแล้ว มันก็จะไม่มีการจัดขึ้นอีก ต่อไปนี้ห้ามเธอคบกับลูกชายฉัน”

“คุณไปห้ามลูกชายคุณดีกว่า คุณไม่มีสิทธิ์มาห้ามฉัน...เพราะคุณไม่ใช่แม่ฉัน!”

สินีตาโต เงื้อมือสูงและตบหน้าหญิงสาวหน้าสวยที่เคยปลื้มอย่างแรง วีด้าไม่สะทกสะท้าน จ้องหน้าท้าทายและสะบัดหน้าจากไปพร้อมกับเกรซ คัชพลเห็นหลัง

คนรักไวๆก็รีบเข้าไปหา ขอโทษขอโพยใหญ่และขอโอกาสแก้ตัวอีกครั้ง แต่วีด้าตีหน้าซื่อส่ายหน้าปฏิเสธ บอกว่าสินีไล่เธอออกจากบ้านแล้ว ทุกอย่างจะต้องจบลงเสียที

คัชพลมองตามคนรักและเพื่อนสาวจนลับตา สินีผ่านมาเห็นและขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว คัชพลไม่สนใจแม่และตั้งท่าจะไปง้อวีด้า แต่สินีไม่ยอม ประกาศกร้าวไม่ให้เขาออกจากบ้าน

“แม่ไปพูดอะไรกับวีด้า มันไม่ใช่ความผิดของเขา แล้วเขาบอกว่าแม่ไล่เขา มันหมายความว่ายังไงครับ”

“มันฟ้องแกหรือ มันบอกด้วยหรือเปล่าว่าแม่ตบหน้ามัน”

คัชพลหน้าเสีย ต่อว่าแม่เสียงเข้มที่ลงไม้ลงมือกับคนรัก “คุณแม่...ไปตบหน้าเธอทำไมครับ แม่จะโทษเธอไม่ได้นะครับ มันเป็นความผิดของไอ้เล็ก ไอ้เล็กมันบ้าเพราะแม่ตามใจจนเสียคน”

“นี่แกเข้าข้างนังผู้หญิงคนนั้นมากกว่าน้องแกเหรอ แกยังหลงมัน เชื่อมันมากกว่าแม่หรือ มันพูดกับแม่ว่าแม่ไม่มีสิทธิ์ไปห้ามมันไม่ให้คบกับแก เพราะแม่ไม่ใช่แม่มัน”

คัชพลเถียงแทนวีด้าอีกหลายประโยค แต่สินีไม่ฟังและตอกกลับจนเขาเหลืออด “ผมว่าแม่เข้าข้างไอ้เล็กจนเกินไปเหมือนกัน แม่โยนความผิดให้วีด้าแทนที่จะเป็นมัน ไม่ว่ายังไง ผมก็จะไม่เลิกคบกับเธอ ผมจะไปเคลียร์กับวีด้า”

คัชพลเพียรโทร.หาหญิงสาวคนรักเป็นสิบๆรอบแต่เธอไม่รับสาย สินีมองมาด้วยความแค้นใจที่ลูกชายดื้อรั้นไม่ได้อย่างใจ ยศสรัลมองเหตุการณ์ทุกอย่างด้วยความเครียด...วีด้า...เธอต้องการอะไรจากครอบ ครัวฉันกันแน่!

ooooooo

วีด้าออกจากบ้านบัญชาด้วยสีหน้าเงียบสงบกว่าขามา เกรซมองมาด้วยความเป็นห่วง พยายามบอกให้เพื่อนรักรับสายคัชพลเพื่อเคลียร์ให้รู้เรื่อง แต่วีด้าก็ไม่สนใจเพราะทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามที่ต้องการ

ฝ่ายสินีร้อนรนแทบนั่งไม่ติดเพราะติดต่อลูกชายคนเล็กไม่ได้ คัชพลก็ทำตัวหมางเมินเพราะเธอพูดจารุนแรงและทำร้ายร่างกายวีด้า ยศสรัลคอยดูแลแม่ไม่ห่าง ปลอบไม่ให้คิดมากเพราะกลัวจะทรุดตามพ่ออีกคน

“แม่ครับ...แม่อย่าเพิ่งไปโทษเขาเลยครับ มันอาจจะไม่ใช่ความผิดของเขาก็ได้”

“นี่เข้าข้างมันหรือ ทำไมต้องปกป้องมัน หรือว่าเราก็หลงมันอีกคน”

“แม่ครับ...ผมว่าแม่กำลังโมโห แม่ใจเย็นๆก่อนนะครับ ผมรู้ว่าแม่ห่วงเล็ก ผมไปตามน้องให้นะครับ”

เช้าวันต่อมา...แม้จะสะใจที่ทำให้ครอบครัวศัตรูร้าวฉาน แต่วีด้าก็อดเป็นห่วงธัญกรไม่ได้ที่หุนหันพลันแล่นออกจากบ้านเมื่อวันก่อน เธอสอบถามรัชนาถึงเพื่อนร่วมงานคู่กัด แต่ไม่ทันได้เรื่องอะไรมาก คัชพลก็มาง้อถึงที่เสียก่อน

“ผมขอโทษแทนแม่ด้วยนะครับ ผมจะพูดกับแม่ให้เข้าใจ เราจะหาฤกษ์หมั้นกันอีกครั้ง ผมให้คนทำจดหมายขอโทษแขกหมดแล้ว คุณไม่ต้องห่วง เราจะหมั้นกันใหม่นะวีด้า”

“วีด้าขอทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนนะคะ แล้วก็อยากให้เวลาแม่คุณจะยอมรับวีด้าอีกครั้ง”

“เอาแบบนั้นก็ได้ ผมจะรีบไปจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดนะครับ”

วีด้ายิ้มรับแกนๆ คัชพลดึงเธอเข้ามาหอมด้วยความรักและหลงใหล มั่นใจเกินร้อยว่าจะทำให้แม่กลับมารักและพอใจในตัววีด้าอีกครั้ง ส่วนวีด้าลอบถอนใจหน่ายๆ ทั้งที่ควรจะมีความสุขแต่ก็เหนื่อยต้องเล่นละครแบบนี้เต็มที

ธัญกรหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีกครั้ง สินีกระวนกระวายมาก เป็นห่วงกลัวลูกชายคนเล็กจะเป็นอันตรายเพราะอารมณ์ไม่อยู่กับร่องกับรอย ยศสรัลช่วยตามหาเต็มที่ โทร.หาเพื่อนทุกคนของน้องชายและขอร้องให้ติดต่อหากพบเจอที่ไหน คัชพลไม่สนเพราะยังโมโห ส่วนบัญชาก็ไม่ยี่หระ ยังเคืองวีรกรรมก้าวร้าวของลูกชายคนเล็ก

อ่านละคร ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 7 วันที่ 30 เม.ย. 57

ละครไฟรักเพลิงแค้น บทประพันธ์โดย จินโจว
ละครไฟรักเพลิงแค้น บทโทรทัศน์โดย โซนิกซ์ทีม
ละครไฟรักเพลิงแค้น กำกับการแสดง : ชุดาภา จันทรเขต
ละครไฟรักเพลิงแค้น ละครแนว โรแมนติก ดราม่า
ละครไฟรักเพลิงแค้น ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.20 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(จบ) วันที่ 28 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(จบ) วันที่ 28 เม.ย. 57

“ยกโทษให้กับการบอกลาที่ไม่มีคำอธิบาย ยกโทษให้กับผู้หญิงใจร้ายที่ปากแข็งที่สุดในโลก”
สุริยงน้ำตาซึมๆ “ทำให้คุณต้องเสียใจ และเจ็บปวดตลอดเวลาที่เราจากกัน”
สุริยงสารภาพสิ่งที่ค้างคาใจมาแสนนาน

“ฉันรู้ถ้าเทียบกันแล้วความเจ็บปวดของฉัน คงน้อยกว่าคุณมาก แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่เจ็บ มันอาจจะ
เป็นเพราะโชคชะตาที่ทำให้เราต้องกลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่มันก็เป็นโชคชะตาที่ฉันเลือกที่จะเดินตามมัน เดินตามความต้องการที่อยู่ลึกๆในใจ ไม่ใช่คุณคนเดียวที่ไม่รู้ใจตัวเอง บางครั้งฉันเองก็ไม่กล้า ไม่กล้ายอมรับความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง
จนทำให้คุณต้องเสียใจ คุณจะยกโทษให้ฉันได้หรือเปล่า?”
เขมชาติน้ำตาซึม จับมือสุริยงไว้อย่างแน่น


“ยิ่งกว่าได้อีกวดี ผมยอมที่จะลืมสิ่งร้ายๆทุกอย่าง ขอแค่เราได้อยู่ด้วยกัน แค่ผมรู้ว่า คุณไม่เคยลืม
ผม แค่นี้ ผมก็ยอมทุกอย่างแล้ว”
เขมชาติดึงสุริยงมากอดทั้งน้ำตา สุริยงกอดตอบด้วยความรัก ทั้งสองคนกอดกันอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
ที่สวยงาม

เกนหลงกับเอื้อเดินมาด้วยกันจากอีกมุมหนึ่ง เห็นสองคนกอดกัน ก็ยิ้มพอใจ เขมชาติหันมาเห็น
พอดี เขมชาติชูนิ้วโป้งให้ “สำเร็จ”
เกนหลงกับเอื้อหันมามองหน้ากันยิ้มๆ พลางย้อนนึกกลับไปตอนเอื้อวางสายจากสุริยง หันมาทาง
เกนหลง
เอื้อส่งสัญญาณ “โอเค” เกนหลงยิ้มรับและโทร.หาเขมชาติ
“เขมคะ พี่เอื้อ วางสายจากคุณสุแล้วนะคะ ดำเนินแผนขั้นตอนไปได้เลย”
เขมชาติคุยโทรศัพท์ตื่นเต้น
“โอเคครับ ขอบคุณมาก”
เมื่อเห็นว่าเวลาใกล้สิบโมง เขมชาติก็รีบกดส่งข้อความ แล้วก็ยืนรอด้วยความตื่นเต้น
สุริยงรู้สึกตัว คลายกอดหันไปเห็นเอื้อกับเกนหลง
“คุณเอื้อ คุณเกนไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่มั้ยคะ?”
เขมชาติหัวเราะ
“ก็อย่างที่คุณบอก บางทีมันก็เป็นเพราะโชคชะตา แต่เราก็เป็นคนเลือกที่จะเดินไปตามมัน เหมือนที่
คุณเลือกที่จะมาหาผม แค่นี้ก็พอแล้ว”
เขมชาติยิ้มกลบเกลื่อน สุริยงยิ้มตอบ เขมชาติดึงสุริยงมากอดอีกครั้ง เอื้อยิ้มอย่างยินดี ก่อนที่จะ
หันมาทางเกนหลงและดึงเกนหลงมากอดด้วยความรัก
เกนหลงล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ามาถ่ายรูปเขมชาติกับสุริยง และกดส่งให้พ่อแม่สุริยง

อาทิตย์เปิดข้อความดู พอเห็นรูปก็ยิ้มแฉ่งรีบเรียกคนอื่นมาดู
“แม่...แม่...ไก่ ไข่ มาดูอะไรนี่เร็ว”
นภากำลังทำขนมก็หันมาด้วยความแปลกใจ
“ดูอะไรเหรอพ่อ เรียกซะตกใจหมด”
“แม่มาดูเดี๋ยวก็รู้เอง”
ไก่ ไข่ วิ่งตึกๆๆๆๆ มา ชื่นวิ่งตามมาด้วย
“คุณไก่ คุณไข่ เบาๆหน่อยค่ะ วิ่งระวังๆค่ะ เตาร้อนนะคะ”
ทั้งหมดเดินมารุมที่หน้าจอโทรศัพท์ พอเห็นรูปก็ตาวาวด้วยความตื่นเต้น

เอื้อกับสุริยงยืนคุยกัน สุริยงยืนดูจดหมายจากมือถือของเจ้าสัวอีกครั้งแล้วก็ยิ้ม
“ขอบคุณคุณเอื้ออีกครั้งนะคะสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ขอบคุณที่ดูแลกันมาอย่างดี ขอบคุณที่เข้าใจ
อดทน แล้วก็ยังรู้ใจหนูเล็กมากกว่าตัวเอง ขอบคุณที่ส่งเขมมาที่นี่ และที่สำคัญขอบคุณสำหรับข้อความของเจ้าสัวมันมีค่ามากจริงๆ”
“ต้องขอบคุณคุณพ่อครับ ท่านมาเข้าฝันผม”
เมื่อเห็นสุริยงขมวดคิ้ว เอื้อก็ยิ้มขำ
“ล้อเล่นครับ ที่ผมนึกถึงเพราะผมเองก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ และต้องเสียใจเพราะทิฐิของ
ตัวเอง ดีใจด้วยนะหนูเล็กที่ก้าวข้ามมันมาได้”
สุริยงยิ้มรับ เอื้อมองไปที่ด้านหลังสุริยง แล้วหันมาพูดต่อ

“ถึงเวลาที่คุณจะมีความสุขสักที”
เอื้อยิ้มอบอุ่นให้สุริยง สุริยงยิ้มรับหัวใจพองโต เอื้อเดินไปหาเกนหลงที่ยืนอยู่ห่างออกไป สุริยงค่อยๆ
หันมาตามสายตาของเอื้อ
เขมชาติอยู่ในสภาพปกติ หน้าตาสดใส มีความสุขไม่แพ้กัน พลางเดินมาหา และหยุดอยู่ตรงหน้า
“คุณเอื้อบอกว่า เห็นคุณโยนของบางอย่างทิ้งที่ริมน้ำ อาจจะเป็นแหวนที่ผมให้ ผมก็เลยลงไปงมมัน
ขึ้นมา”
สุริยงตาโต
“งมแหวนเนี่ยนะ มันจะไปเจอได้ยังไง? คุณจะบ้าหรือเปล่า?”
เขมชาติยิ้มจริงใจ
“ผมไม่ได้บ้า” พลางยื่นกล่องแหวนเข้ามาตรงหน้า “เปิดดูสิ”
สุริยงมองด้วยความแปลกใจ แล้วก็รีบรับกล่องแหวนมาเปิดออกทันที ภาพที่ปรากฏต่อสายตา คือ
แหวนเพชรน้ำงามรูปดอกไม้ สวยหรู
สุริยงตะลึง เขมชาติยิ้ม
“ผมไม่ได้บ้า ผมก็เลยไม่ได้ลงไปงม แต่ผมซื้อวงใหม่ให้คุณ วงแรกผมซื้อจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง
วงนี้ก็เหมือนกัน ถึงแม้มันจะมีราคาที่ต่างกัน แต่ความรู้สึกที่ผมมีต่อคุณ ไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าคุณรู้สึกเหมือนผม”
สุริยงยื่นกล่องแหวนคืนให้ เขมชาติหน้าเสีย
“ให้แหวนมาแล้ว ก็ต้องเป็นคนสวมให้ด้วยสิ จะให้ฉันสวมเองได้ยังไง”
เขมชาติหัวเราะออกมาอย่างโล่งอก “โอเค”
เขมชาติก็ค่อยๆจับมือสุริยงอย่างอ่อนโยน พร้อมกับบรรจงสวมแหวนให้อย่างทนุถนอม
เขมชาติพูดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
“แม้รักร่วมสวมใสไว้ติดกาย”
สุริยงพูดต่อ “เมื่อใดวายสวาทวอดจึงถอดเอย”
เขมชาติมองหน้าสุริยง
“ผมจะดูแลคุณอย่างดีที่สุด ไม่ทำให้คุณต้องถอดแหวนวงนี้ทิ้งเหมือนวงเก่า ผมจะไม่ลืมสิ่ง
ผิดพลาดที่ผ่านมา จำเพื่อเตือนตัวเองจะได้ไม่ทำอีก ผมจะไม่ลืมสิ่งดีๆที่ผ่านมา และจะทำสิ่งที่ดีใหม่ๆเพิ่มขึ้นไปอีก
เรื่อยๆ นับจากนี้ทุกครั้งที่เรานึกย้อนกลับไปในอดีต จะได้มีแต่สิ่งดีๆ ไม่สิ้นสุด”

สุริยงมองเขมชาติด้วยความซึ้งใจ เขมชาติจับมือไว้แน่น
“ผมรักคุณนะวดี รักมากเหลือเกิน”
สุริยงถึงกับยิ้มออกมา น้ำตาซึมๆ แล้วก็ตอบกลับมาเบาๆ ว่า
“ฉันก็รักคุณค่ะ”
เขมชาติถึงกับน้ำตาคลอ เมื่อได้ยินคำว่ารักคำแรกของผู้หญิงปากแข็ง....
“ในที่สุด ผมก็ได้ยินคำนี้ “ พูดเบาๆพร้อมกับลูบท้องสุริยง “แม่เขายอมใจอ่อนแล้วนะลูก พ่อรู้ว่าลูก
แอบช่วยอยู่ ขอบใจมาก”
เขมชาติกอดสุริยงไว้ด้วยความรัก ทั้งสองคนกอดกันอย่างมีความสุข
เกนหลงกับเอื้อยืนมองเขมและสุริยงแล้วก็ยิ้มมีความสุขไปด้วย สักพักมีเสียงฝรั่งดังขึ้น
“พร้อมแล้วครับ”
เกนหลงกับเอื้อหันไป เห็นช่างภาพฝรั่งกับทีมอีกคน สองคน พร้อมถ่ายรูป..
เอื้อ หันมาพูดกับเกนหลง
“คู่นั้นเขาไปไกลแล้ว เราเพิ่งจะถ่ายรูปแต่งงานกันเอง สงสัยต้องรีบแล้ว เดี๋ยวมีลูกไม่ทันใช้”
เกนหลง อายหน้าแดง
“พี่เอื้อ”
“อ้าว จะมาอายทำไม ดูหน้าแดงใหญ่แล้ว พี่บอกว่ารีบ คือ รีบถ่ายรูป แล้วก็รีบกลับประเทศไทยไป
จัดงานแต่งงาน คิดอะไรเนี่ย”
เกนหลงอายหน้าแดง แล้วก็รีบเฉไฉ
“ไม่ได้คิด อะไรนะ ไปถ่ายรูปได้แล้ว ไป”
เกนหลงลากเอื้อไปถ่ายรูปแต่งงาน ในเซ็ตที่จัดแบบง่ายๆ ท่ามกลางธรรมชาติสวยงามเอื้อหัวเราะ
อารมณ์ดี อย่างมีความสุข

เขมชาติยืนโอบสุริยงจากข้างหลัง สุริยงค่อยๆเลื่อนมือเขมชาติมาที่หน้าท้องเพื่อสื่อถึงลูกในท้องให้รับรู้ ถึงความรัก ท่ามกลางทัศนียภาพอันสวยงามเบื้องหน้าอย่างมีความสุข…

******สวัสดี******

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(จบ) วันที่ 28 เม.ย. 57

ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตี
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3

อ่านละคร ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 7 วันที่ 29 เม.ย. 57

อ่านละคร ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 7 วันที่ 29 เม.ย. 57

“งั้นคุณก็รู้ไว้เลยว่าฉันไม่ได้ต้องการเงินของครอบครัวคุณเลยสักนิด และวันนี้...ฉันมาที่นี่เพราะคิดถึงคุณใหญ่”
วีด้าสะบัดหน้าจากไปแล้ว ทิ้งยศสรัลให้มองตามด้วยความเจ็บใจ...ผมต้องหยุดคุณให้ได้วีด้า!

ฝ่ายคัชพลมีสีหน้าเคร่งเครียดเพราะคณะกรรมการไม่อนุมัติเรื่องเงินลงทุนค่า ที่ดิน แม้บัญชาจะไม่ถือสาเอาความแต่ก็อดใจเสียไม่ได้เพราะเป็นเงินจำนวนมหาศาล วีด้าอ่านเขาทะลุ แต่ยังแกล้งทำเป็นเห็นอกเห็นใจและอาสาจะช่วยพูดกับคณะกรรมการ ไม่อยากให้เขาต้องคิด มากที่ต้องมาลงทุนร่วมกับเธอ


คัชพลเบาใจขึ้นมาก หวังลึกๆจะได้เงินมาหมุนเพราะตอนนี้ค่าที่ดินทำให้เงินสดในบริษัทเหลือน้อย เกินไป ไม่รู้แม้แต่น้อยว่าเวลาเดียวกันที่ห้องทำงานของยศสรัล ชายหนุ่มกำลังมองเห็นความไม่ชอบมาพากลในรายงานตัวเลขค่าใช้จ่ายในโครงการ ร่วมทุนกับวีด้า เมื่ออ่านไปเรื่อยๆก็ยิ่งสงสัยเพราะไม่เห็นความจำเป็นที่พี่ชายจะต้องกว้าน ซื้อที่ดินรอบด้านด้วยเงินจำนวนมากขนาดนี้...เห็นทีเขาต้องหาโอกาสถามให้รู้ เรื่องเสียแล้ว

ฟากวีด้ามองตามคัชพลไม่วางตาเมื่อเขาขอตัวคุยกับบัญชาตามลำพัง หลังได้ซองเอกสารสีน้ำตาลจากลูกน้องคนหนึ่ง หญิงสาวมองซ้ายขวาเห็นไม่มีใครเลยแกล้งแง้มประตูเพื่อแอบดู จึงเห็นว่าบัญชาอ่านเอกสารแล้วรีบทำลายด้วยเครื่องย่อย ก่อนจะทิ้งลงถังขยะ วีด้า

หาโอกาสปลีกตัวจากคัชพลกลับมาค้นที่ห้องนี้อีกครั้ง กำเศษกระดาษทั้งหมดใส่กระเป๋าเพื่อเอาไปหาข้อมูลเบื้องหลังสกปรกของครอบครัว บัญชาต่อไป

วีด้าลักลอบเอาเศษกระดาษกลับมาบ้านได้สำเร็จ แต่ความกังวลลึกๆเรื่องงานหมั้นก็ทำให้อดเครียดไม่ได้ เกรซแวะมาเยี่ยมและพยายามเตือนสติเพื่อนรักให้คิดดีๆ

“วีด้า...ชีวิตแกมันเป็นชีวิตจริงนะ แกจะต้องกลายเป็นภรรยาของศัตรูแก แกจะทนได้เหรอ”

“ฉันไม่ปล่อยให้เป็นถึงขนาดนั้นหรอก ฉันรู้ว่าฉันมาไกลเกิน และฉันก็จะหาทางออกเอง แต่คงถอนหมั้นไม่ได้”

กำหนดงานหมั้นของวีด้ากับคัชพลเป็นข่าวดังระดับประเทศ ดนัยรับรู้ทุกอย่างด้วยสีหน้าเศร้าหมอง เสียใจที่ไม่อาจทำให้เธอเปลี่ยนใจและกลับมาอยู่ข้างเขาได้เหมือนเดิม เกรซพยายามปลอบให้คลายความทุกข์ แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเพราะความรักมันฝังลึกจนยากจะไถ่ถอน อีกคนที่ช้ำใจไม่แพ้กันคือธัญกร ชายหนุ่มหงุดหงิดและเหวี่ยงไปทั่วจนใครๆก็เข้าหน้าไม่ติด รัชนามองมาด้วยความสมเพชและแกล้งแหย่จนถูกเขาแหวกลับให้เลิกจุ้นจ้านเสียที!

แต่คนที่น่าจะมีความสุขที่สุดเพราะทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผนอย่างวีด้าก็ เครียดไม่แพ้กัน ถึงขั้นหลุดปากกับธัญกรว่าไม่รู้คิดถูกหรือผิดที่ตัดสินใจหมั้นกับคัชพล ธัญกรตาวาว พยายามซักไซ้หาสาเหตุที่เธอคิดแบบนั้น แต่วีด้าก็ไม่ปริปากแล้วบอกว่าเป็นเหตุผลส่วนตัวที่เขาไม่จำเป็นต้องรู้

ธัญกรอดบ่นเรื่องนี้กับยศสรัลไม่ได้เมื่อเจอกันตอนเย็นวันเดียวกัน ไม่เข้าใจวีด้าเลยว่าจะหมั้นกับคัชพลทำไมถ้าไม่แน่ใจ ยศสรัลไม่ทนเก็บความสงสัยไว้นาน เขาบุกไปถามความจริงจากหญิงสาวต้นเรื่องแต่เช้าของวันถัดมา

“คุณกำลังเล่นอะไร ไประบายกับนายเล็กว่าไม่อยากหมั้น...เพราะไม่ได้รักพี่ใหญ่หรือแค่ต้องการปั่นหัวน้องผม”

วีด้าโต้กลับเสียงเรียบว่าไม่ได้ต้องการแบบนั้น ยศสรัลหัวเสียมาก สวนกลับว่าเธอทำไปแล้ว และตอนนี้ธัญกรก็อาการเพียบหนักเพราะมีความหวังขึ้นมาอีกว่าเธอจะเปลี่ยนใจ วีด้าเริ่มร้อนรน พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น

“ฉันไม่สนว่าเขาจะคิดยังไง เพราะฉันไม่เคยคิดจะหลอกล่อให้น้องชายคุณมาชอบฉัน”

“งั้นก็แสดงว่าคุณหลอกล่อให้พี่ใหญ่มาชอบคุณ”

วีด้าสะอึก เถียงไม่ออกเพราะเขาพูดแทงใจ ทุกอย่าง ยศสรัลปราดไปดึงตัวเธอมาใกล้ คาดคั้นหาความจริงในใจเธอ แต่วีด้าก็เลือกโต้กลับด้วยการตบหน้าเขาเต็มแรง ไม่อยากให้เขาจับได้ว่ากำลังหวั่นไหวเพียงใด

ยศสรัลขอร้องให้วีด้าคิดทบทวนอีกครั้ง ไม่อยากให้เธอตัดสินใจผิดและเสียใจตลอดชีวิต วีด้าไม่ตอบ รอจนเขาลับร่างไปแล้วจึงทรุดตัวนั่งกับพื้นอย่างอ่อนแรง...

หรือว่าเธอจะต้องพ่ายแพ้ในเกมนี้จริงๆ

แม้จะประกาศเจตนาชัดเจนกับวีด้าแล้ว ยศสรัลก็ไม่สบายใจนักเพราะทำให้เธอเครียด แต่คนที่กดดันเขามากกว่าคือแม่บังเกิดเกล้า สินีวุ่นจัดเตรียมงานหมั้นที่บ้านและคะยั้นคะยอให้เขาไปง้อมณฑิตาให้มางาน พ่อแม่ของว่าที่คู่หมั้นสาวมองมาด้วยความไม่พอใจนัก ยอมปล่อยให้ไปปรับความเข้าใจกับลูกสาวแต่ไม่วายทิ้งท้าย

“สรัลก็รู้ ถ้ามณกับสรัลไม่ได้แต่งงานกัน หนูมณจะเสื่อมเสียแค่ไหน และผู้ใหญ่ก็คงมองหน้ากันไม่ได้อีกต่อไป”

แม้จะหนักใจเพราะสิ่งที่จะทำอาจทำให้ผู้ใหญ่สองฝ่ายมองหน้ากันไม่ติด แต่ยศสรัลก็เลือกบอกความรู้สึกของตัวเองตรงๆว่าไม่ได้คิดอะไรกับว่าที่คู่ หมั้นสาวแม้แต่น้อย มณฑิตาแขวะกลับน้ำตาคลอ

“ถ้าคุณเห็นข้อดีในตัวมณบ้าง คุณก็จะรักมณได้ เพราะอย่างน้อยสิ่งหนึ่งที่คุณวีด้าให้คุณไม่ได้ก็คือความรัก”

ยศสรัลเจ็บแปลบเพราะสิ่งที่เธอพูดแทงใจดำอย่างแรง มณฑิตามองมาด้วยแววตาเจ็บปวด ปฏิเสธจะไปร่วมงานหมั้นของคัชพลกับวีด้า อยากทำให้เขาเสียหน้าบ้างเหมือนที่เคยทำกับเธอ ยศสรัลหน้าเจื่อน โต้ว่าไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับวีด้า มณฑิตาไม่เชื่อและท้าให้เขาพิสูจน์ด้วยการแต่งงานกับเธอโดยเร็วที่สุด!

ooooooo

และแล้ววันหมั้นระหว่างวีด้ากับคัชพลก็มาถึง เกรซมาช่วยแต่งตัวและดูแลความเรียบร้อยแต่เช้า อดกังวลแทนไม่ได้เพราะวีด้าดูนิ่งและไม่พูดไม่จาเหมือนเคย แต่เมื่อสอบถามกลับได้รับคำตอบอย่างมั่นอกมั่นใจว่ารอคอยวันนี้มานานเพื่อ แผนล้างแค้นสมบูรณ์แบบที่สุด เกรซได้แต่ทำใจและใส่วิกสวมแว่นปลอมตัวเพื่อหลอกยศสรัล

ฟากคัชพลตื่นเต้นมากจะได้หมั้นหมายกับหญิงสาวที่พึงใจ เช่นเดียวกับบัญชาและสินีที่ปลื้มมากจะได้ว่าที่ลูกสะใภ้รวยและเพียบพร้อมสม ศักดิ์ศรีลูกชายคนโตทุกอย่าง แต่ที่ทำให้สินีข้องใจคือกำธรไม่มาร่วมงาน โดยวีด้าอ้างว่างานยุ่งมาก บัญชากับคัชพลไม่ถือสา แต่สัญชาตญาณผู้หญิงทำให้สินีเริ่มเอะใจ...งานสำคัญของลูกสาวแท้ๆ

แต่ที่ทำให้สินีประสาทเสียมากกว่าคือการหายตัวไปของธัญกร ยศสรัลตามหาให้วุ่นแต่ไม่เจอแม้แต่เงาของน้องชายคนเล็ก เมื่อบัญชากับคัชพลทราบเรื่องก็โมโหมากที่ธัญกรไม่เห็นความสำคัญของคนในครอบ ครัว สินีหน้าซีดเผือด กลัวสามีโกรธและลงโทษลูกชาย ตั้งท่าจะโทร.หาด้วยตัวเอง แต่ไม่ทันได้ยกหู ธัญกรก็เดิน

เมาแอ๋เข้ามาเสียก่อน สาวใหญ่ตกใจมาก รีบสั่งให้ลูกชายคนเล็กไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ ถ้าไม่อยากถูกพ่อกับพี่ชายคนโตโยนออกจากงาน!

เกรซขับรถพาว่าที่ลูกสะใภ้ของบ้านบัญชามาถึงไม่นานหลังจากนั้น ยศสรัลเป็นคนต้อนรับและพาสองสาวไปพักที่ห้องรับรอง วีด้าเดินเข้าห้องด้วยท่าทางสงบ แต่เกรซซึ่งรู้จักนิสัยเพื่อนรักดีจึงพอเดาได้ว่าไม่ปกติ

“มือแกเย็นเฉียบเลย ฉันว่าแกบ้าไปแล้วแน่ๆ นี่แค่หมั้นแกยังเป็นแบบนี้ แล้วถ้าถึงวันที่แกต้องแต่งงาน แกไม่ต้องตกนรกทั้งเป็นเลยเหรอ”

วีด้าโต้ว่ามันจะไม่มีวันนั้น เพราะเธอจะจัดการศัตรูของครอบครัวให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เกรซจะเตือนสติแต่ต้องยั้งปากไว้เพราะคัชพลแวะมาทักทายว่าที่คู่หมั้นเสีย ก่อน วีด้าปั้นหน้ายิ้มหวานหยด นัยว่าดีใจเสียเต็ม ประดาจะได้หมั้นกับเขา เกรซแอบเซ็งและถือโอกาสแนะนำตัวกับคัชพลว่าชื่อเกษรินเป็นเพื่อนรักของวีด้า

ในขณะที่วีด้ากับคัชพลส่งตาหวานให้กัน ธัญกรที่เมาไม่รู้เรื่องบุกเข้าไปหาวีด้าถึงในห้อง พร้อมตะโกนลั่นไม่ให้เธอหมั้นถ้าไม่เต็มใจ วีด้าหน้าเสียกลัวเขาทำแผนแตก แต่ธัญกรแรงเยอะจนใครก็เอาไม่อยู่

“คุณวีด้า...อย่าทำแบบนี้เลย ยุติทุกอย่างเถอะ มันไม่ใช่ผมเจ็บคนเดียว แต่คุณเองก็เจ็บด้วยไม่ใช่เหรอ”

เกรซพยายามห้ามแต่ไม่ค่อยได้ผล ธัญกรถลันไปดึงตัววีด้าและบังคับให้ยกเลิกงานหมั้น เสียงเอะอะทำให้ทุกคนในบ้านแตกตื่น ยศสรัลพุ่งเข้ามาคนแรก ตกใจมากที่เห็นน้องชายคนเล็กทำตัวรุ่มร่ามกับวีด้า แต่คนที่ตามมาเป็นคนที่สองโกรธจัดกว่า คัชพลไม่รอช้าปราดไปกระชากตัวธัญกรออกจากว่าที่คู่หมั้นสาว

อ่านละคร ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 7 วันที่ 29 เม.ย. 57

ละครไฟรักเพลิงแค้น บทประพันธ์โดย จินโจว
ละครไฟรักเพลิงแค้น บทโทรทัศน์โดย โซนิกซ์ทีม
ละครไฟรักเพลิงแค้น กำกับการแสดง : ชุดาภา จันทรเขต
ละครไฟรักเพลิงแค้น ละครแนว โรแมนติก ดราม่า
ละครไฟรักเพลิงแค้น ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.20 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(จบ) วันที่ 28 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(จบ) วันที่ 28 เม.ย. 57

“ยกโทษให้กับการบอกลาที่ไม่มีคำอธิบาย ยกโทษให้กับผู้หญิงใจร้ายที่ปากแข็งที่สุดในโลก”
สุริยงน้ำตาซึมๆ “ทำให้คุณต้องเสียใจ และเจ็บปวดตลอดเวลาที่เราจากกัน”
สุริยงสารภาพสิ่งที่ค้างคาใจมาแสนนาน

“ฉันรู้ถ้าเทียบกันแล้วความเจ็บปวดของฉัน คงน้อยกว่าคุณมาก แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่เจ็บ มันอาจจะ
เป็นเพราะโชคชะตาที่ทำให้เราต้องกลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่มันก็เป็นโชคชะตาที่ฉันเลือกที่จะเดินตามมัน เดินตามความต้องการที่อยู่ลึกๆในใจ ไม่ใช่คุณคนเดียวที่ไม่รู้ใจตัวเอง บางครั้งฉันเองก็ไม่กล้า ไม่กล้ายอมรับความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง
จนทำให้คุณต้องเสียใจ คุณจะยกโทษให้ฉันได้หรือเปล่า?”
เขมชาติน้ำตาซึม จับมือสุริยงไว้อย่างแน่น


“ยิ่งกว่าได้อีกวดี ผมยอมที่จะลืมสิ่งร้ายๆทุกอย่าง ขอแค่เราได้อยู่ด้วยกัน แค่ผมรู้ว่า คุณไม่เคยลืม
ผม แค่นี้ ผมก็ยอมทุกอย่างแล้ว”
เขมชาติดึงสุริยงมากอดทั้งน้ำตา สุริยงกอดตอบด้วยความรัก ทั้งสองคนกอดกันอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
ที่สวยงาม

เกนหลงกับเอื้อเดินมาด้วยกันจากอีกมุมหนึ่ง เห็นสองคนกอดกัน ก็ยิ้มพอใจ เขมชาติหันมาเห็น
พอดี เขมชาติชูนิ้วโป้งให้ “สำเร็จ”
เกนหลงกับเอื้อหันมามองหน้ากันยิ้มๆ พลางย้อนนึกกลับไปตอนเอื้อวางสายจากสุริยง หันมาทาง
เกนหลง
เอื้อส่งสัญญาณ “โอเค” เกนหลงยิ้มรับและโทร.หาเขมชาติ
“เขมคะ พี่เอื้อ วางสายจากคุณสุแล้วนะคะ ดำเนินแผนขั้นตอนไปได้เลย”
เขมชาติคุยโทรศัพท์ตื่นเต้น
“โอเคครับ ขอบคุณมาก”
เมื่อเห็นว่าเวลาใกล้สิบโมง เขมชาติก็รีบกดส่งข้อความ แล้วก็ยืนรอด้วยความตื่นเต้น
สุริยงรู้สึกตัว คลายกอดหันไปเห็นเอื้อกับเกนหลง
“คุณเอื้อ คุณเกนไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่มั้ยคะ?”
เขมชาติหัวเราะ
“ก็อย่างที่คุณบอก บางทีมันก็เป็นเพราะโชคชะตา แต่เราก็เป็นคนเลือกที่จะเดินไปตามมัน เหมือนที่
คุณเลือกที่จะมาหาผม แค่นี้ก็พอแล้ว”
เขมชาติยิ้มกลบเกลื่อน สุริยงยิ้มตอบ เขมชาติดึงสุริยงมากอดอีกครั้ง เอื้อยิ้มอย่างยินดี ก่อนที่จะ
หันมาทางเกนหลงและดึงเกนหลงมากอดด้วยความรัก
เกนหลงล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ามาถ่ายรูปเขมชาติกับสุริยง และกดส่งให้พ่อแม่สุริยง

อาทิตย์เปิดข้อความดู พอเห็นรูปก็ยิ้มแฉ่งรีบเรียกคนอื่นมาดู
“แม่...แม่...ไก่ ไข่ มาดูอะไรนี่เร็ว”
นภากำลังทำขนมก็หันมาด้วยความแปลกใจ
“ดูอะไรเหรอพ่อ เรียกซะตกใจหมด”
“แม่มาดูเดี๋ยวก็รู้เอง”
ไก่ ไข่ วิ่งตึกๆๆๆๆ มา ชื่นวิ่งตามมาด้วย
“คุณไก่ คุณไข่ เบาๆหน่อยค่ะ วิ่งระวังๆค่ะ เตาร้อนนะคะ”
ทั้งหมดเดินมารุมที่หน้าจอโทรศัพท์ พอเห็นรูปก็ตาวาวด้วยความตื่นเต้น

เอื้อกับสุริยงยืนคุยกัน สุริยงยืนดูจดหมายจากมือถือของเจ้าสัวอีกครั้งแล้วก็ยิ้ม
“ขอบคุณคุณเอื้ออีกครั้งนะคะสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ขอบคุณที่ดูแลกันมาอย่างดี ขอบคุณที่เข้าใจ
อดทน แล้วก็ยังรู้ใจหนูเล็กมากกว่าตัวเอง ขอบคุณที่ส่งเขมมาที่นี่ และที่สำคัญขอบคุณสำหรับข้อความของเจ้าสัวมันมีค่ามากจริงๆ”
“ต้องขอบคุณคุณพ่อครับ ท่านมาเข้าฝันผม”
เมื่อเห็นสุริยงขมวดคิ้ว เอื้อก็ยิ้มขำ
“ล้อเล่นครับ ที่ผมนึกถึงเพราะผมเองก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ และต้องเสียใจเพราะทิฐิของ
ตัวเอง ดีใจด้วยนะหนูเล็กที่ก้าวข้ามมันมาได้”
สุริยงยิ้มรับ เอื้อมองไปที่ด้านหลังสุริยง แล้วหันมาพูดต่อ

“ถึงเวลาที่คุณจะมีความสุขสักที”
เอื้อยิ้มอบอุ่นให้สุริยง สุริยงยิ้มรับหัวใจพองโต เอื้อเดินไปหาเกนหลงที่ยืนอยู่ห่างออกไป สุริยงค่อยๆ
หันมาตามสายตาของเอื้อ
เขมชาติอยู่ในสภาพปกติ หน้าตาสดใส มีความสุขไม่แพ้กัน พลางเดินมาหา และหยุดอยู่ตรงหน้า
“คุณเอื้อบอกว่า เห็นคุณโยนของบางอย่างทิ้งที่ริมน้ำ อาจจะเป็นแหวนที่ผมให้ ผมก็เลยลงไปงมมัน
ขึ้นมา”
สุริยงตาโต
“งมแหวนเนี่ยนะ มันจะไปเจอได้ยังไง? คุณจะบ้าหรือเปล่า?”
เขมชาติยิ้มจริงใจ
“ผมไม่ได้บ้า” พลางยื่นกล่องแหวนเข้ามาตรงหน้า “เปิดดูสิ”
สุริยงมองด้วยความแปลกใจ แล้วก็รีบรับกล่องแหวนมาเปิดออกทันที ภาพที่ปรากฏต่อสายตา คือ
แหวนเพชรน้ำงามรูปดอกไม้ สวยหรู
สุริยงตะลึง เขมชาติยิ้ม
“ผมไม่ได้บ้า ผมก็เลยไม่ได้ลงไปงม แต่ผมซื้อวงใหม่ให้คุณ วงแรกผมซื้อจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง
วงนี้ก็เหมือนกัน ถึงแม้มันจะมีราคาที่ต่างกัน แต่ความรู้สึกที่ผมมีต่อคุณ ไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าคุณรู้สึกเหมือนผม”
สุริยงยื่นกล่องแหวนคืนให้ เขมชาติหน้าเสีย
“ให้แหวนมาแล้ว ก็ต้องเป็นคนสวมให้ด้วยสิ จะให้ฉันสวมเองได้ยังไง”
เขมชาติหัวเราะออกมาอย่างโล่งอก “โอเค”
เขมชาติก็ค่อยๆจับมือสุริยงอย่างอ่อนโยน พร้อมกับบรรจงสวมแหวนให้อย่างทนุถนอม
เขมชาติพูดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
“แม้รักร่วมสวมใสไว้ติดกาย”
สุริยงพูดต่อ “เมื่อใดวายสวาทวอดจึงถอดเอย”
เขมชาติมองหน้าสุริยง
“ผมจะดูแลคุณอย่างดีที่สุด ไม่ทำให้คุณต้องถอดแหวนวงนี้ทิ้งเหมือนวงเก่า ผมจะไม่ลืมสิ่ง
ผิดพลาดที่ผ่านมา จำเพื่อเตือนตัวเองจะได้ไม่ทำอีก ผมจะไม่ลืมสิ่งดีๆที่ผ่านมา และจะทำสิ่งที่ดีใหม่ๆเพิ่มขึ้นไปอีก
เรื่อยๆ นับจากนี้ทุกครั้งที่เรานึกย้อนกลับไปในอดีต จะได้มีแต่สิ่งดีๆ ไม่สิ้นสุด”

สุริยงมองเขมชาติด้วยความซึ้งใจ เขมชาติจับมือไว้แน่น
“ผมรักคุณนะวดี รักมากเหลือเกิน”
สุริยงถึงกับยิ้มออกมา น้ำตาซึมๆ แล้วก็ตอบกลับมาเบาๆ ว่า
“ฉันก็รักคุณค่ะ”
เขมชาติถึงกับน้ำตาคลอ เมื่อได้ยินคำว่ารักคำแรกของผู้หญิงปากแข็ง....
“ในที่สุด ผมก็ได้ยินคำนี้ “ พูดเบาๆพร้อมกับลูบท้องสุริยง “แม่เขายอมใจอ่อนแล้วนะลูก พ่อรู้ว่าลูก
แอบช่วยอยู่ ขอบใจมาก”
เขมชาติกอดสุริยงไว้ด้วยความรัก ทั้งสองคนกอดกันอย่างมีความสุข
เกนหลงกับเอื้อยืนมองเขมและสุริยงแล้วก็ยิ้มมีความสุขไปด้วย สักพักมีเสียงฝรั่งดังขึ้น
“พร้อมแล้วครับ”
เกนหลงกับเอื้อหันไป เห็นช่างภาพฝรั่งกับทีมอีกคน สองคน พร้อมถ่ายรูป..
เอื้อ หันมาพูดกับเกนหลง
“คู่นั้นเขาไปไกลแล้ว เราเพิ่งจะถ่ายรูปแต่งงานกันเอง สงสัยต้องรีบแล้ว เดี๋ยวมีลูกไม่ทันใช้”
เกนหลง อายหน้าแดง
“พี่เอื้อ”
“อ้าว จะมาอายทำไม ดูหน้าแดงใหญ่แล้ว พี่บอกว่ารีบ คือ รีบถ่ายรูป แล้วก็รีบกลับประเทศไทยไป
จัดงานแต่งงาน คิดอะไรเนี่ย”
เกนหลงอายหน้าแดง แล้วก็รีบเฉไฉ
“ไม่ได้คิด อะไรนะ ไปถ่ายรูปได้แล้ว ไป”
เกนหลงลากเอื้อไปถ่ายรูปแต่งงาน ในเซ็ตที่จัดแบบง่ายๆ ท่ามกลางธรรมชาติสวยงามเอื้อหัวเราะ
อารมณ์ดี อย่างมีความสุข

เขมชาติยืนโอบสุริยงจากข้างหลัง สุริยงค่อยๆเลื่อนมือเขมชาติมาที่หน้าท้องเพื่อสื่อถึงลูกในท้องให้รับรู้ ถึงความรัก ท่ามกลางทัศนียภาพอันสวยงามเบื้องหน้าอย่างมีความสุข…

******สวัสดี******

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(จบ) วันที่ 28 เม.ย. 57

ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตี
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(4) วันที่ 28 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(4) วันที่ 28 เม.ย. 57

สุริยงทำเป็นมีฟอร์ม แต่สุดท้ายก็ยอมนั่งกินจนได้
เขมชาติยืนแอบมองอยู่อีกมุมหนึ่ง พลางยิ้มโล่งอก เป็นจังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์มือถือสั่นเขมชาติรีบกดรับ
“คุณเอื้อ สวัสดีครับ”

เอื้อกับเกนหลงเพิ่งเดินทางมาถึงสวิส เอื้อเดินไปคุยไป
“สถานการณ์เป็นยังไงบ้างครับ ?”
“ ยังคลุมเครือครับ ไม่มีอะไรคืบหน้า”
เขมชาติคุยเบาๆ คุยไป ก็แอบมองดูสุริยงไปด้วย
“แต่ผมกำลังจะลองใจวดีบางอย่าง เดี๋ยวก็รู้ว่าจะยอมใจอ่อนหรือยัง?”


เอื้อตอบเสียงครุ่นคิด
“ได้ผลยังไงบอกผมด้วย ตอนนี้ผมกับเกนมาถึงแล้ว กำลังจะไปหา”
“เจอกันค่ะเขม”
เอื้อวางสายไป เกนหลงหันมาถาม
“พี่เอื้อคิดว่า แผนลองใจของเขมจะสำเร็จมั้ยคะ?”
เอื้อยอมรับหนักใจ

เมื่อสุริยงกินหมดเกลี้ยงจาน ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย สุริยงแอบหงุดหงิด
“ไม่เห็นมีอะไรเลย” พลางพลิกดูใต้จาน ”อยู่นี่เอง” สุริยงเห็นกระดาษพับๆเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ แปะอยู่
ใต้จาน จึงรีบหยิบขึ้นมาอ่าน
“บัตรนัดหมอ แม่คุณแนะนำให้ผมพาคุณไปหาหมอ เพราะถึงกำหนดที่จะต้องฝากครรภ์แล้วผม
นัดหมอที่ดีที่สุดในเมืองไว้ตอนสิบโมง ถ้าคุณไว้ใจ ผมรออยู่”

ในขณะที่เขมชาติมองดูนาฬิกา ในใจลุ้น เสียงโทรศัพท์ดัง จึงรีบดูหน้าจอ เห็นเป็นชื่อเอื้อ เขมชาติผิดหวังเล็กน้อย
“ครับคุณเอื้อ”
เอื้อเปิด speaker phone
“แผนการณ์สำเร็จมั้ยครับ?”
เขมชาติดูนาฬิกาเกือบจะสิบโมงแล้ว
“จะสิบโมงแล้ว ผมว่าอาจจะไม่สำเร็จ”
เอื้อกับเกนหลงมองหน้ากัน
“สิบโมงเกี่ยวอะไรด้วยคะ?”
เขมชาติคิดๆ กำลังจะเล่า
ในขณะที่สุริยงยังอยู่ในชุดเดิม พลางดูนาฬิกาอีกครึ่งชั่วโมงสิบโมง สุริยงมองดูบัตรนัดแล้วคิดหนัก
จะไป หรือไม่ไปดี

เอื้อกับเกนหลงพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“โอเค ตอนนี้ก็อีกครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาหมอนัด คุณสุยังไม่มา”
เขมชาติ ตอบเสียงเศร้าๆ เกืบจะหมดหวัง
“ครับ ผมว่า เขาอาจจะไม่มา วดีคงไม่ยอมใจอ่อน และไม่ยอมรับเรื่องลูก หรือไม่ก็คงไม่ยอมรับว่า
ผมเป็นพ่อเด็ก สรุปแล้ว เขาคงไม่ไว้ใจผม ไม่ว่าผมจะทำดีแค่ไหนก็ตาม”
เขมชาติแอบเศร้า เกนหลงมองหน้าเอื้อ
“ผมคิดอะไรออกบางอย่าง” จู่ๆ เอื้อก็โพล่งขึ้นมา พลางอมยิ้มนิดๆ แววตาเจ้าเล่ห์

นาฬิกาที่ข้างฝาบอกเวลา 9 โมง 35 นาที สุริยงยังคงเดินไปเดินมาอย่างคิดไม่ตก ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือดัง สุริยงชะงักนิดๆ
“เขมหรือเปล่า?” สุริยงเดินไปดูหน้าจอ ปรากฏชื่อเอื้อ แอบผิดหวังเล็กๆ
“สวัสดีค่ะคุณเอื้อ หนูเล็กเดาออกว่าคุณเอื้อจะโทร.มาเรื่องอะไร?”
เอื้อยิ้มๆ “ไม่จริง ผมว่าหนูเล็กเดาไม่ออก เพราะสิ่งที่ผมจะบอก หนูเล็กไม่เคยรู้มาก่อน”
สุริยงขมวดคิ้ว แปลกใจ
“หนูเล็กจำได้หรือเปล่า ครั้งแรกที่เราเจอกัน คุณพ่อพาคุณมาฉลองวันเกิดผม”
เอื้อคุยโทรศัพท์อยู่มุมหนึ่ง เกนหลงยืนอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย

“แต่ผมตั้งใจไม่อยู่บ้าน คุณเลยต้องฉลองกับคุณพ่อแค่สองคน คืนนั้นพอผมกลับมา ผมเห็นการ์ดของคุณพ่อวางอยู่บนโต๊ะกินข้าว การ์ดใบนั้นมันมีความหมายกับผมมาก ผมอยากให้คุณอ่านมัน”
เอื้อพูดด้วยความตั้งใจ สุริยงฟังแล้วคิดด้วยความอยากรู้ และสงสัย ก่อนที่จะรีบเดินมาที่ชั้นวางของ
เห็นรูปเจ้าสัววางอยู่ สุริยงเปิดลิ้นชักและหยิบการ์ดที่เอื้อบอกขึ้นมาดู
“เอื้อ ลูกรัก วันเกิดปีนี้พ่อไม่มีของขวัญให้ นอกจากคำสอนที่เรียบง่าย ถ้าลูกอยากมีความสุข ต้อง
รู้จัก “ลดทิฐิ” สิ่งที่ทำให้คนเราทุกข์ เพราะเรามีทิฐิ ไม่ยอมเปิดใจรับสิ่งที่สวยงาม ลูกปฏิเสธผู้หญิงดีๆอย่างหนูเล็ก
เพราะทิฐิ ทำให้ลูกต้องมาเสียใจภายหลัง พ่อได้แต่หวังว่า นับจากนี้ไปลูกจะเรียนรู้การวางทิฐิ อคติ และเปิดใจรับสิ่ง
ดีๆที่กำลังจะเข้าใจในชีวิตอย่างมีความสุข...อย่าสร้างความทุกข์ให้ตัวเอง เพราะกำแพงแห่งทิฐิอีกเลย รักลูกและอยาก
เห็นลูกมีความสุขเสมอ”

สุริยงน้ำตาร่วง พลางปาดน้ำตา คิด มองรูปเจ้าสัวที่อยู่ตรงหน้า เจ้าสัวมองมา เหมือนจะบอก
ให้สุริยงตัดสินใจ
สุริยง หันไปดูนาฬิกา 9 โมง 50 นาที อีกสิบนาที
ในขณะที่เขมชาติยังยืนรออยู่ที่เดิม พร้อมๆ กับที่ความเศร้าใจทวีมากขึ้นเรื่อยๆ พลางมองทางเดิน
ไม่มีวี่แวว เขมชาติตัดสินใจหันหลังกำลังจะไป
ทันใดนั้น สุริยงก็เดินโผล่เข้ามา
“ใจเสาะจริงๆ แค่หนึ่งนาทีก็รอไม่ได้”
เขมชาติชะงักกึก หันมาที่ต้นเสียง เห็นสุริยงเดินมาราวกับพระอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่างไสว
“วดี”
สุริยงเดินมาหยุดตรงหน้า
“ไม่มีความอดทนแบบนี้ สมควรจะได้รับการยกโทษหรือเปล่า?”
เขมชาติระล่ำระลักรีบอธิบาย
“ผมไม่ได้จะไป ผมแค่หันหลังเฉยๆ”
“ยังจะมาเจ้าเล่ห์”
“ผม ไม่ได้เจ้าเล่ห์ ผมแค่ โอเค ผมยอมรับ ผมคิดว่าคุณจะไม่มา แต่คุณก็มาจนได้ คุณยกโทษให้ผม
แล้วใช่มั้ยวดี?”
“ฉันยังไม่พูดสักคำว่ายกโทษให้ แต่ฉันจะให้เวลาคุณ 30 วินาที บอกเหตุผลที่ฉันฟังแล้วจะต้องยก
โทษให้กับสิ่งเลวร้ายต่างๆที่คุณทำกับฉัน”
เขมชาติอึ้ง
“30 วินาที โห ผมทำอะไรไว้ตั้งเยอะแยะ แค่ 30 วิจะไปพออะไร?”
สุริยงดูนาฬิกา “เริ่มจับเวลา”
เขมชาติ เริ่มลน “เอ่อ คือ เว้ยเฮ้ย พูดอะไรดี”
สุริยงมองหน้า “ก็แค่พูดความจริง เหลืออีก 25 วินาที”
เขมชาติหน้าเหวอ
“หะ !? โอเค ผมรู้ ที่ผ่านมาผมทำไม่ดีกับคุณไว้มาก ทำให้คุณต้องเสียใจ ต้องร้องไห้ ผมอยาก
ให้คุณรู้ว่า ผมเสียใจ และเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าคุณ ผมคิดว่าสิ่งเลวร้ายที่ทำลงไป จะทำให้ผมหายแค้น”
“แล้วมันหายมั้ย?”
เขมชาติส่ายหน้า
“ยิ่งผมทำไม่ดีกับคุณมากเท่าไหร่ มันยิ่งเพิ่มความรู้สึกผิด ความเสียใจ ให้เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น มันทำ
ให้ผมรู้ว่า ผมไม่ได้โกรธแค้น หรือเกลียดคุณแม้แต่นิดเดียว ตรงกันข้ามผมยังรักคุณ และรักเพิ่มมากขึ้น ทุกครั้งที่เราเจอกัน”
เขมชาติน้ำตาซึมๆ สารภาพทุกความรู้สึกออกมาอย่างหมดเปลือก สุริยงเริ่มไม่สนใจเวลาที่ผ่านไป
“เพราะผมรัก ผมถึงเจ็บ เวลาที่รู้ว่าคุณเจ็บ ผมถึงเสียใจที่รู้ว่าคุณเสียใจ ผมขอโทษนะวดี ขอโทษที่
ไม่รู้ใจตัวเอง ขอโทษที่ไม่รู้จักคุณดีพอ ถึงได้ทำร้ายคุณอย่างมากมายขนาดนี้ ผมขอโทษ”
สุริยงมองหน้าเขมชาติ มองลึกเข้าไปในแววตา สิ่งที่เห็นคือความจริงล้วนๆ สุริยงใจอ่อนยวบ หมด
เปลือกที่หุ้มอย่างสิ้นเชิง
“ฉันยกโทษให้คุณ แล้วคุณจะยกโทษให้ฉันได้หรือเปล่า?”
เขมชาติขมวดคิ้ว แปลกใจ สุริยงพูดต่อ
“ยกโทษให้กับการบอกลาที่ไม่มีคำอธิบาย ยกโทษให้กับผู้หญิงใจร้ายที่ปากแข็งที่สุดในโลก”
สุริยงน้ำตาซึมๆ “ทำให้คุณต้องเสียใจ และเจ็บปวดตลอดเวลาที่เราจากกัน”

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(4) วันที่ 28 เม.ย. 57

ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตี
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(3) วันที่ 28 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(3) วันที่ 28 เม.ย. 57

ผิดเองที่เลิกคิดถึงคุณไม่ได้ และผมก็ผิดเอง ที่อยากอยู่ใกล้ๆเพื่อดูแลคุณตลอดเวลา มันเป็นความผิดของผมเอง”
เขมชาติพูดด้วยความจริงใจ สุริยงฟัง แล้วเชิดหน้าใส่

“เก๋นะ เข้าใจพูดให้ดูดี แต่ไม่มีประโยชน์ ออกไป ฉันต้องการที่จะอยู่คนเดียว”
“วดี อย่าไล่ผมอีกเลย ผมขอร้องผมยอมรับผิดทุกอย่าง ที่ผ่านมา ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้คุณไม่ลืมผม
ไม่ว่าจะทำดีหรือว่าทำเลว เพราะผมอยากเป็นหนึ่งในความทรงจำของคุณตลอดไป


แต่ตอนนี้ ผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น นอกจากได้ดูแลคุณ”
เขมชาติอ้อนวอนเสียงเศร้า ตาเริ่มแดง
“ผมจะยอมทำทุกอย่าง เพื่อให้คุณมีความสุขที่สุด แต่จะไม่โผล่หน้ามาให้คุณเห็นอีก จะไม่ปรากฎตัวสร้างความ
รำคาญใจให้กับคุณ คุณจะได้ลืมผม จะไม่จดจำผมอีกเลยก็ได้ ผมไม่เรียกร้องอะไรจากคุณทั้งนั้น”
เขมชาติพูดออกมาจากใจ หน้าตาน่าสงสาร แววตาเว้าวอน สุริยงเห็นแล้วก็เกือบจะใจอ่อน
จนต้องรีบเบือนหน้าหนี
“ผมเตรียมอาหาร ซักผ้า ทำความสะอาดแล้ว ผมซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้คุณด้วย คุณอาจจะไม่รู้ตัว
คุณเริ่มจะอ้วนขึ้น โดยเฉพาะช่วงท้อง แต่ผมไม่ได้บอกว่าคุณท้องนะ คือคุณจะท้องหรือว่าไม่ท้อง
จะมีลูกหรือไม่มี ผมก็จะอยู่ดูแลคุณอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ดูแลคุณตลอดไป”
สุริยงอึ้ง พูดไม่ออก เขมชาติสรุป
“คุณจะหนีผมไปอีกก็ได้ แต่คุณอย่าไล่ผมออกไปจากชีวิตคุณอีกเลย ผมขอร้องผมไปไม่ได้จริงๆเพราะชีวิตผม
หัวใจผมอยู่ที่คุณเพียงคนเดียว”
เขมชาติสรุปจากใจจริง แล้วก็เดินมาส่งดอกไม้ยัดใส่มือสุริยง แล้วก็เดินออกจากบ้านไป สุริยงมอง
รอบๆด้วยความงุนงง นึกไม่ถึงว่าเขมชาติจะมาไม้นี้ เพราะถ้ามาแนวตื๊อ แนวดื้อ แนวแรง ก็ตอบกลับถูก
แต่มาแนว นิ่มๆ นิ่งๆ จริงใจ..สุริยงเลยอึ้ง จนไปไม่เป็น

ในขณะที่เอื้อกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ในเวดดิ้งของสตูดิโอ
“เดี๋ยวๆ หนูเล็กๆใจเย็นๆก่อน ผมไม่ได้หักหลัง ที่ผมส่งเขมชาติไป เพราะเขาคือคนที่เป็นห่วงหนูเล็กมากที่สุด”
อีกมุมหนึ่งเกนหลงกำลังเลือกแบบชุดแต่งงานจากหนังสือรวมแบบชุดแต่งงาน พลางเงี่ยหูฟังด้วยความเป็นห่วง
“ผมไว้ใจเขาที่สุด และหนูเล็กเองก็ควรที่จะไว้ใจเขาเหมือนกัน”
สุริยงยังดื้อต่อไป
“คุณเอื้อไม่ได้ต้องมาเจออย่างที่หนูเล็กเจอ คุณเอื้อไม่เข้าใจหรอก ว่าทำไมหนูเล็กถึงไม่ไว้ใจผู้ชายอย่างเขมชาติ”
ทันใดนั้นเสียงที่ตอบกลับมาทำเอาสุริยงถึงกับอึ้ง
“พี่เอื้ออาจจะไม่เข้าใจ แต่เกนเข้าใจค่ะ”
“คุณเกน”
“การโดนคนที่เราไว้ใจที่สุด โกหก หลอกลวงเรา มันทำให้เราหมดความเชื่อมั่นที่จะเชื่อใจเขาได้อีกต่อไป ถ้าคนที่
โกหกเป็นคนอื่น เกนจะแนะนำว่า ไม่ควรเชื่อเขาอีกต่อไป แต่สำหรับเขมชาติแล้ว เกนขอให้คุณสุลองเปิดใจและให้
โอกาสเขาอีกครั้ง”
สุริยงส่ายหน้า พยายามทำใจแข็งไม่เห็นด้วย
“ทำไมคะ? ทำไมเขมชาติถึงได้ข้อยกเว้น”
เกนหลงตอบเสียงหนักแน่น ”เพราะเขมรักคุณสุค่ะ”
สุริยงชะงักกึก เกนหลงพูดต่อ
“ก่อนหน้านี้ เขาไม่แสดงออก เพราะหลอกตัวเองว่า “เกลียด” ก็เลยทำให้คุณสุต้องเสียใจ”
เกนหลงคุยกับสุริยงด้วยความเข้าใจ เห็นใจ เอื้อยืนอยู่ข้างๆ ฟังด้วยความสนใจและชื่นชมวิธีคิด วิธี
พูดของเกนหลง ในขณะที่สุริยงฟังด้วยใจเต้นแรง ความกลัว ความรัก ทิฐิ ที่กำลังต่อสู้กันสุดๆ
“เกนเองก็เคยโกรธ เกลียดเขมไม่น้อยกว่าที่คุณสุเป็น แต่ที่เกนให้อภัยเขาเพราะรู้ว่าเนื้อแท้จริงๆแล้ว
เขมไม่ใช่คนเลว เขาแค่ไม่รู้ใจตัวเอง เกนก็ถือตามคำโบราณที่ว่าไม่รู้ย่อมไม่ผิด แต่ตอนนี้เขารู้ตัวแล้วและ
ยังกล้าที่จะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา คนแบบนี้ น่าจะได้รับการให้อภัยค่ะ”
สุริยงสะท้านใจ ความสับสนเพิ่มมากขึ้น
“พี่เอื้อเล่าให้ฟังว่า คุณสุเคยบอกให้พี่เอื้อถามใจตัวเอง ตอนนี้คงถึงเวลาที่คุณสุต้องลองถามใจตัวเองดูบ้างนะคะ
ว่าจริงๆแล้ว คิดยังไงกับเขม เพราะเขมเขารู้ใจตัวเองแล้วหล่ะค่ะ ว่าผู้หญิงทีเขารักมาตลอด และ
ยังคงรักไม่เปลี่ยนแปลง คือคุณสุ”
สุริยงอึ้ง คำพูดเกนหลงจี้ใจดำอย่างแรง
เกนหลงวางสายไปพร้อมกับรอยยิ้ม แห่งความสบายใจ เสียงเอื้อปรบมือ
“พูดได้จับใจมากครับ”
เกนหลงยิ้มรับ
“ขอบคุณค่ะ แต่เกนไม่แน่ใจเลยว่ามันจะได้ผลหรือเปล่า เมื่อกี๊เธอก็ฟังอย่างเดียว ไม่พูดอะไรเลย
คุณสุใจแข็งอย่างที่พี่เอื้อบอกจริงๆด้วย บอกตรงๆนะคะ เกนไม่ค่อยสบายใจยังไงก็ไม่รู้ อยากจะทำอะไรให้มากกว่านี้”
เอื้อคิด แล้วก็เสนอ
“พี่ว่าเราไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกันที่สวิสดีมั้ย?”
เกนหลงหันขวับมา ยิ้มดีใจ “จริงเหรอคะ?”
“เพราะพี่ก็ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปแต่งงานในสตูเท่าไหร่ มันเขินๆไงไม่รู้ เราก็ถือโอกาสไปถ่ายรูป
แต่งงานที่โน่น ระหว่างนั้นก็แวะไปให้กำลังใจหนูเล็กกับเขมชาติด้วย เกนว่าไง”
“ไปพรุ่งนี้เลยนะคะ”
แล้วทั้งสองคนก็หัวเราะกันออกมาอย่างสดใส

ส่วนสุริยงก็ยังคงคิดถึงคำพูดของเกนหลง
“เนื้อแท้จริงๆแล้ว เขมไม่ใช่คนเลว เขาแค่ไม่รู้ใจตัวเอง เกนก็ถือตามคำโบราณที่ว่า ไม่รู้ย่อมไม่
ผิด แต่ตอนนี้เขารู้ตัวแล้ว และยังกล้าที่จะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา คนแบบนี้ น่าจะได้รับการให้อภัยค่ะ
คุณสุลองถามใจตัวเองดูนะคะ ว่าจริงๆแล้ว คิดยังไงกับเขม เพราะเขมเขารู้ใจตัวเองแล้วหล่ะค่ะ ว่าผู้หญิงที่เขารักมา
ตลอด และยังคงรักไม่เปลี่ยนแปลง คือคุณสุ”
สุริยงคิด แล้วก็ได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากห้องกินข้าว จึงรีบเดินมาก็เห็นอาหารจัดไว้อย่างสวยงาม
พร้อมกับกระดาษโน้ตของเขมชาติ สุริยงหยิบมาอ่าน
“ผมเห็นคุณไม่ค่อยทานอะไรมาหลายวัน เลยซื้ออาหารไทยร้านโปรดของคุณมาให้ คุณเอื้อบอกว่า
เป็นเมนูที่คุณชอบ ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมเขียนบอกไว้ได้นะครับ ... เขม”
สุริยงอ่านแล้วก็เบือนหน้าหนี มองอาหาร เหมือนไม่อยากกิน พลางทำท่าจะหันหลังเดินหนี แต่
สุดท้ายก็ชะงักเท้า พลางมองซ้ายมองขวาเห็นว่าเขมชาติไม่อยู่ ก็เลยเดินกลับมาแล้วก็กินอย่างเอร็ดอร่อย
หลังจากนั้นทุกครั้งที่สุริยงเดินออกไปไหน ก็จะรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามตลอดเวลา แม้กระทั่งภายใน
ชาโตว์ ทุกเช้าจะเห็นเห็นดอกไม้สดชื่น เสื้อผ้าซักรีดเรียบร้อย แปรงสีฟันมียาสีฟันป้ายไว้อย่างดี
สุริยงแววตาเริ่มอ่อนโยนลงเรื่อยๆ และเริ่มจะคิดถึงเขมชาติ ยามค่ำคืนสุริยงพยายามจะตื่นมาดู
เขมชาติ แต่เห็นแค่หลังแว่บๆ แล้วก็รีบหนีออกไป บางคืนที่สุริยงนอนผ้าห่มกระจุยออกจากร่าง เขมชาติก็จะย่องเข้า
มาห่มผ้าให้ ก้มหน้ามาเหมือนจะจูบ แต่ก็ตัดใจไม่จูบ พอเขมชาติเดินออกไป สุริยงค่อยๆลืมตา พลางคิดถึงคำพูดของ
เกนหลง
“คุณสุลองถามใจตัวเองดูนะคะ.าจริงๆแล้ว คิดยังไงกับเขม เพราะเขมเขารู้ใจตัวเองแล้วหล่ะค่ะ
ว่าผู้หญิงที่เขารักมาตลอด และยังคงรักไม่เปลี่ยนแปลง คือคุณสุ”
แววตาของสุริยงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
เช้ารุ่งขึ้น สุริยงเดินมาที่โต๊ะรับประทานอาการ แต่บนโต๊ะว่างเปล่า ไม่มีของอาหารวางไว้เหมือน
ปกติ สุริยงแปลกใจ
“ทำไมไม่เตรียมอาหาร”

เมื่อเดินมาถึงโต๊ะ เห็นกระดาษเขียนไว้ สุริยงหยิบมาอ่าน ขมวดคิ้วนิดๆ
สุริยงเดินออกมาที่หน้าบ้าน พร้อมกับเสียงเขมชาติเฉลยข้อความที่เขียนไว้
“วดี วันนี้อากาศดี ผมเตรียมอาหารเช้าไว้ให้นอกบ้าน ทานหมด มีของขวัญพิเศษอยู่ใต้จานนะ
ครับ”
สุริยงเดินมาเห็นโต๊ะเล็กๆ จัดอาหารเช้าไว้อย่างน่าทาน สุริยงมองแล้วท้องร้อง แต่ทำฟอร์ม
“ของขวัญ ใต้จานเนี่ยนะ ใครจะอยากได้”
สุริยงมองๆ ทำเป็นเชิดๆ แต่ด้วยความหิว
“ลองดูก็ได้ถ้าไม่มีอะไรอยู่ใต้จานนะน่าดู”
สุริยงทำเป็นมีฟอร์ม แต่สุดท้ายก็ยอมนั่งกินจนได้
เขมชาติยืนแอบมองอยู่อีกมุมหนึ่ง พลางยิ้มโล่งอก เป็นจังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์มือถือสั่น
เขมชาติรีบกดรับ
“คุณเอื้อ สวัสดีครับ”

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(3) วันที่ 28 เม.ย. 57

ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตี
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(2) วันที่ 28 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(2) วันที่ 28 เม.ย. 57

“แต่ออกมาให้เห็นหน้าเห็นตาหน่อยก็ยังดีนะ ไม่ใช่มาทำเป็นโสนน้อยเรือนงาม แอบมาทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูตอนที่เจ้าของบ้านไม่รู้ตัว”
เอื้อหัวเราะชอบอกชอบใจ

“แต่อย่างน้อยที่สุดโสนน้อยเรือนงามก็ไม่คิดทำร้ายใครนะครับ ทำให้เพราะความรัก ผมก็คิดว่าโอเคนะ”
สุริยงแย้ง “มันก็โอเคอยู่หรอกค่ะ แต่ถ้าเป็นคนที่หนูเล็กไม่อยากเห็นหน้าต่อให้ต้องมาดูแลดีซีกแค่ไหน หนูเล็กก็จะไล่กลับไป”
เอื้อสะดุ้งชะงักนิดนึง แต่ก็คงยังทำเป็นใจดีสู้เสือ


“หนูเล็กก็น่าจะรู้นะว่าผมเป็นคนคิดรอบคอบ ถ้าผมเลือกที่จะส่งใครสักคนไปดูแลคุณละก้อ ผมก็ต้องเลือกคนที่ดีที่สุดอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง”
เอื้อยิ้มเจ้าเล่ห์ ในจังหวะเดียวกับที่ผู้ชายที่อยู่ในชุดพนักงานออร์กาไนเซอร์เดินมาบอกเอื้อ
“คุณเกนมาแล้วครับ”
เอื้อพยักหน้ารับรู้ และถือโอกาสตัดบทจบการสนทนา
“เกนมาแล้ว แค่นี้ก่อนนะหนูเล็ก โชคดีครับ บาย”
สุริยงรีบเรียกไว้แต่ไม่ทัน
“เดี๋ยวค่ะคุณเอื้อ คุณเอื้อ” แต่เอื้อวางสายไปเรียบร้อยแล้ว สุริยงวางตามไปหงุดหงิดนิดๆ “คุณเอื้อทำตัวน่าสงสัยไม่น่าวางใจ”

สุริยงคิดสังหรณ์ใจว่า คนที่เอื้อส่งมาจะนั้นต้องเป็น “คนคนนั้น”
ที่พนักงานที่เดินเตรียมงานอยู่ เดินออกไปหลบไปอยู่หลังกันหมด เอื้อแตะกระเป๋าสูทสำรวจของข้าง
ในว่าอยู่ดีแล้วก็ยิ้มพอใจ เกนหลงเดินเข้ามาถึงพอดี
“เกนพร้อมแล้วค่ะ ทีมงานบอกว่าเตรียมงานไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นักข่าวทยอยมาบางส่วนแล้ว
เรารีบออกไปต้อนรับกันเถอะค่ะ”
“เดี๋ยวครับ ยังไปไม่ได้ตอนนี้ คือ ก่อนไป พี่มีหนึ่งคำถามนึงอยากจะถาม”
เกนหลงทำหน้างง ” ค่ะ”
“เกนจำได้มั้ยว่า คุณยายน้อยเคยให้เกนยืมเครื่องทองโบราณมาใส่กับชุดไทย”
“จำได้สิคะ เกนจะลืมได้ยังไง เรื่องสำคัญขนาดนี้”
เอื้อยิ้มเข้าทาง
“เกนคงไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว เครื่องทองชุดนั้น มันขาดสิ่งหนึ่งไป เป็นสิ่งสำคัญมาก วันนั้นคุณยายไม่ได้ให้มา
แต่วันนี้ท่านมอบให้พี่ และให้พี่มามอบให้กับผู้หญิงที่คู่ควร”
เอื้อหยิบกล่องแหวนออกมาจากกระเป๋า และเมื่อเปิดออก ก็เห็นแหวนเพชรของเก่าโบราณ ที่ดูเลอค่ามาก
เกนหลงเห็นแล้วอึ้งๆ
“แหวนวงนี้ เป็นแหวนประจำตระกูลของเรา คุณตาสวมให้คุณยายในวันแต่งงาน และคุณแม่ก็สวม
สลับกับแหวนแต่งงานที่คุณพ่อให้ คุณแม่มอบให้คุณยายน้อยก่อนท่านจะเสีย ให้ท่านเก็บไว้ให้พี่ จนกว่าพี่จะได้เจอ
ผู้หญิงที่พี่อยากแต่งงานด้วย”
เกนหลงอึ้ง เอื้อพูดแบบตรงๆ ซื่อๆ
“และวันนี้ พี่ก็ได้เจอแล้ว มันอาจจะเป็นการขอแต่งงานที่เรียบๆ ง่ายๆ ตรงๆ ซื่อๆ ไม่มีการวางแผน
อะไรมาก แต่มันมาจากความรู้สึกจริงๆ ของพี่”
จบประโยค เอื้อก็คุกเข่าต่อหน้าเกนหลง
“พี่ขอเป็นคนดูแลเกนตลอดไป แต่งงานกันนะครับ”
เกนหลงน้ำตาร่วง พยักหน้า ”ค่ะ”
ทันทีที่ได้ยินเสียงค่ะ เสียงเฮร้อง ดนตรี นกหวีด และ มากมายดังประสานกันขึ้นมา เกนหลงตกใจ
ม่านที่ปิดไว้ ร่วงลงพื้น ทั้งดนตรี พนักงานที่มารอยินดี แขกร่วมงาน นักข่าว ยืนอยู่เต็มฮอลล์เล็กๆ
หลังม่าน ทุกคนไชโยด้วยความดีใจ ทั้งคุณพจน์ อัมพิกา ไก่ ไข่ รวมถึงยายน้อย ชนะ และฮันนี่
เกนหลงมองทุกคนอย่าวอึ้งๆ งงๆ
“นี่มัน อะไรกันคะเนี่ย คุณพ่อ”
คุณพจน์ขยิบตาให้ แล้วก็หันไปเต้นกับ เกนหลงหัวเราะชอบใจ ในขณะที่นักข่าวรัวภาพไม่ยั้ง
“นี่เหรอคะ ขอแต่งงานแบบเรียบๆ ซื่อๆ วางแผนขอแต่งงานซ้อนงานเปิดตัวโรงแรมใหม่ คิดแบบนัก
ธนาคารใช่มั้ยคะ ?”
เอื้อ หัวเราะ “ก็นิดนึง”
“นี่ถ้าเกนปฎิเสธไม่หน้าแตกเหรอคะ?”
“งั้นต้องรีบสวมแหวนก่อนเปลี่ยนใจ”
จากนั้นเอื้อก็บรรจงสวมแหวนให้เกนหลงอย่างอ่อนโยน พลางสวมด้วยความรัก เกนหลงกอดตอบ
น้ำตาซึม จากนั้นทั้งคู่ก็หันมาทางแขกที่มาร่วมงาน และนักข่าวที่รุมล้อมถ่ายรูป คุณพจน์ อัมพิกา ยิ้มด้วยความ
พอใจ
ในขณะเดียวกัน สุริยงเดินมาตามทาง ท่ามกลางบรรยากาศอันสวยงามของสวิส เหมือนกำลังจะมุ่ง
หน้าไปที่ใดที่หนึ่ง เขมชาติค่อยๆเดินตามมาอย่างระมัดระวังไม่ให้เห็น
“จะไปไหนของเขา”
สุริยงยังเดินไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย เขมชาติเดินตามมาอย่างระมัดระวัง
สุริยงเดินมาสักพักก็เริ่มรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่ข้างหลัง ก็เลยหยุดเดิน เขมชาติชะงักตาม. หันซ้าย
หันขวา ไม่มีที่กำบัง จากนั้นก็รีบดึงฮู้ดขึ้นมาปิดหน้า
สุริยงจะหัน..แต่ไม่หัน แล้วก็เดินต่อ เขมชาติเป่าปากโล่งใจ รีบเดินตามไป ทันใดนั้นสุริยงก็หยุดเดิน
หันขวับกลับมา เขมชาติหันหลังกลับทันที ชนเข้ากับคนที่เดินตามหลัง ถุงผลไม้ ในมือหล่นกระจายโครม
“Sorry sorry”
เขมชาติได้ทีรีบก้มช่วยเก็บของ ไม่ให้สุริยงเห็นหน้า สุริยงเขม่นตามอง แต่ไม่เห็นหน้า และเห็นว่า
เก็บของใกล้จะหมดแล้วเลยไม่เข้าไปช่วย หันหลังและเดินต่อไป
เขมชาติเก็บของเสร็จรีบส่งถุงให้
“so sorry ….Have a good day”
จากนั้นก็รีบเดินตามสุริยงไปทันที แต่ไม่เห็นแล้ว เขมชาติรีบวิ่งไปด้วยความร้อนใจ

เขมชาติวิ่งตามหาสุริยงด้วยความเป็นห่วง วิ่งมาสักพักก็ไม่เห็น เขมชาติหยุดวิ่งพัก หอบ
“หายไปไหนนะ”
เขมชาติวิ่งต่อไป ทันใดนั้นสุริยงก็เดินออกมาจากร้านขายขนมปัง เขมชาติตกใจรีบหาที่กำบัง เกือบไม่ทัน สุริยงชะงักหันมาทางเขมชาติแต่ไม่เห็นใคร จึงเดินถือถุงอาหารแล้วเดินไป
เขมชาติที่หลบอยู่ที่หลังถังขยะ ค่อยๆโผล่ออกมาอย่างโล่งอก จากนั้นก็ทิ้งระยะสักพักแล้วค่อยเดินตามไปอย่างเงียบๆ ระมัดระวังสุดๆ
สุริยงเดินมาหยุดที่มุมสวยชองสวิส หาที่นั่ง มองวิวด้านหน้าอย่างสบายอารมณ์แล้วก็หยิบอาหารออกมากินอย่างมีความสุข เขมชาติแอบมองอยู่ไม่ไกล
“เที่ยง สงสัยจะเบื่อกินข้าวในบ้าน”

สุริยเดินกลับเข้ามาในชาโตว์ ด้วยความอ่อนอย่างเพลีย แล้วก็ชะงัก มองไปรอบๆบ้าน เห็นดอกไม้
ผลไม้ และกระดาษแผ่นหนึ่งวางไว้บนโต๊ะ
“เบอร์โทรศัพท์โรงพยาบาล และรายชื่อหมอเด็ก”
สุริยงขมวดคิ้ว แล้วก็คิด
“มันจะมากเกินไปแล้ว”

พลางคิดแผนบางอย่างขึ้นมาได้
ภายในชาโตว์ของเจ้าสัวชลิต สุริยงนอนหลับอยู่ที่โซฟาด้านล่าง มีหนังสือวางแนบอกอยู่
นาฬิกาบอกเวลาตีสามกว่าๆ พลันก็มีกุกกักดังมาจากประตูด้านหน้า และเขมชาติก็เดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง ในมือถือช่อดอกไม้ และอาหาร เดินมาอย่างสบายอารมณ์ แต่พอหันมาเห็นสุริยงนอนอยู่ก็ชะงักกึก
สุริยงยังนอนอยู่ เขมชาติต้องค่อยๆ ย่องเอาของมาวาง แล้วก็ย่องมาดูสุริยงอย่างแผ่วเบา เห็นว่า
นอนไม่ห่มผ้า ก็มองซ้ายมองขวาไปหยิบผ้ามาห่มให้ เก็บหนังสือออกจากอก
เขมชาติมองแล้วก็ยิ้มด้วยความรัก อยากจะจูบเหลือเกิน แต่จำต้องตัดใจหันไปทำภารกิจต่อ
ในขณะที่สุริยงนอนนิ่ง
เขมชาติทำทุกอย่างดังเช่นทุกครั้ง จนกระทั่งหยิบช่อดอกไม้เตรียมไปจัด แล้วก็ต้องช็อกสุดขีด
เพราะสุริยงยืนจังก้าอยู่กลางห้อง
“วดี”
“คุณจริงๆด้วย ฉันบอกแล้วไง อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
เขมชาติรีบวางถาด แต่ดอกไม้ยังถืออยู่
“ผมรู้ว่าคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ตั้งแต่มา ผมเลยไม่ปรากฎตัว ไม่มาให้คุณเห็นหน้า นี่ถ้าคุณไม่ทำ
เป็นแกล้งหลับ แล้วตื่นมาจับผิดคุณก็ไม่ต้องเห็นหน้าผม”
สุริยงเลิกคิ้ว
“จะบอกว่าทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฉันหรือไง?”
เขมชาติรีบบอก
“เปล่าๆ ผมไม่ได้บอกว่าคุณผิด โอเคๆ ผมผิดเอง ที่ทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้คุณออกไปจากชีวิตผม ผม
ผิดเองที่เลิกคิดถึงคุณไม่ได้ และผมก็ผิดเอง ที่อยากอยู่ใกล้ๆเพื่อดูแลคุณตลอดเวลา มันเป็นความผิดของผมเอง”
เขมชาติพูดด้วยความจริงใจ สุริยงฟัง แล้วเชิดหน้าใส่

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(2) วันที่ 28 เม.ย. 57

ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตี
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(1) วันที่ 28 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(1) วันที่ 28 เม.ย. 57

สุริยงสูดกลิ่นขนมปังเข้าเต็มปอด แล้วก็มองหาต้นตอที่มาของกลิ่น
ก่อนที่จะเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร แล้วก็ชะงักนิดๆ เมื่อมองเห็นขนมปังอบ อุ่นๆ วางอยู่ พร้อมกับผลไม้ และน้ำองุ่น
“ยังอุ่นอยู่เลย”

สุริยงมองด้วยความรู้สึกแปลกใจ นอกจากอาหารขนมปังอบ อุ่นๆ วางอยู่ พร้อมกับผลไม้ และน้ำองุ่นแล้วรอบๆบ้าน ยังมีดอกไม้ตกแต่งจัดไว้อย่างสวยงาม ดูสดชื่นมาก
“อาหาร ดอกไม้” พลางเอามือลูบไปบนโต๊ะ “ฝุ่นก็ไม่มี ใครมาทำความสะอาดให้?” หยิบขวดน้ำองุ่นมาดู
“ รู้ได้ยังไงว่าเราอยากกินน้ำองุ่น ?”
สุริยงคิดถึงคำพูดของเอื้อ


ในขณะที่คนที่กำลังถูกคิดถึง กำลังคุยโทรศัพท์อยู่หน้าบ้านเกนหลง
“ผมส่งคนพิเศษไปดูแลเอง หนูเล็กไม่ต้องห่วง ปลอดภัย ไว้ใจได้”
สุริยงรีบถาม
“คนพิเศษของคุณเอื้อเป็นใครคะ? ทำไมถึงได้ไว้วางใจมากถึงขนาดนั้น”
เอื้ออึกๆอักๆ
“ก็...คือ”
พลางย้อนนึกถึงหน้าของเขมชาติ ที่ตกใจสุดขีดตอนที่รู้ว่สุริยงกำลังจะเดินทางไปสวิส
“วดีกำลังจะไปสวิส แล้วไม่มีเวลากำหนดกลับ”
“ใช่ ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะไปด้วย แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมคิดว่า ลึกๆแล้วหนูเล็กคงอยากให้คุณ
ไปมากกว่า”
เอื้อตัดสินใจพูดตามตรง เขมชาติตกใจรอบสอง
“วดี อยากให้ผมไป คุณเอื้อคิดไปเองหรือเปล่า?”
“ผมไม่ได้คิดไปเอง ผมคิดจากประสบการณ์ที่ผ่านมาที่ได้รู้จักกับหนูเล็กมานาน และผมมั่นใจว่าผมคิดไม่ผิด หนูเล็กคงตั้งใจจะไปคลอดลูก และเลี้ยงลูกอยู่ที่โน่นตามลำพัง”
เขมชาติทำตาลุกวาวแบบมีความหวัง
"ตกลงว่า วดีท้องจริงๆใช่มั้ยครับ ตกลงเขาโกหกหมอ และเขากำลังจะมีลูกกับผมจริงๆใช่มั้ย”
เอื้อพยักหน้า “ผมคิดว่าใช่นะ”
“แล้ว แล้วเขาจะไปอยู่ที่นั้นคนเดียวได้ยังไงกัน แล้วใครจะเป็นคนพาเธอไปหาหมอ คอยทำกับข้าว ซักผ้า ถูบ้าน แล้วถ้าลูกคลอด ใครจะช่วยเลี้ยง ไปอยู่ไกลบ้านแบบนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะครับ ไม่มีทาง วดีไม่มีทางที่จะอยู่คนเดียวได้”
“ถ้าคุณอยากจะตามไปช่วย ผมจะบอกว่าหนูเล็กไปอยู่ที่ไหน?”
เขมชาติอึกอัก
“แต่ผมรับปากวดีไว้แล้ว ว่าจะไม่ไปให้เขาเห็นหน้าอีก ผมไม่อยากเป็นคนหลอกลวงในสายตาเขา ผม
ผิดคำพูดกับเขามามากเกินไปแล้ว”
“ถ้าคุณอยากจะตามไปดูแลเขาจริงๆ ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องให้เขาเห็นหน้าก็ได้นี่ มันก็มีตั้งหลายวิธีที่
จะทำสิ่งดีๆให้คนอื่น โดยที่ไม่ต้องออกหน้า ไม่เห็นจะยากเลย”
เอื้อยิ้มเจ้าเล่ห์ เขมชาติยิ้มออก
“จริงๆด้วย ทำให้โดยไม่ต้องให้เห็นหน้า ก็เท่ากับไม่เห็นกัน ก็ไม่ผิดสัญญา ขอบคุณมากครับคุณเอื้อ
ขอบคุณมากๆ”
เอื้อยิ้มๆ..แล้วก็หยิบกระดาษออกจากกระเป๋า ส่งให้เขมชาติ
“นี่เป็นรายละเอียดเที่ยวบินของหนูเล็ก”
“โอเคเครับ เดี๋ยวผมรีบไปเตรียมตัวก่อนนะครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”

สุริยงยังไม่หายระแวง
“ตกลงคุณเอื้อส่งใครมา?”
พลางเดินไป คุยไป สำรวจบ้านไปด้วย “เป็นคนไทย หรือ ฝรั่ง หรือ เวียต หรือ ละติน ? ผู้หญิง หรือ
ผู้ชาย ?”
เอื้อหัวเราะ
“เอาน่า เดี๋ยวก็ได้เจอเอง พักผ่อนให้สบายใจ ไม่ต้องคิดมาก เขาไม่ทำร้ายหนูเล็กหรอก ไม่ว่าจะทาง
ร่างกาย หรือ จิตใจ” แล้วก็ทำเสียงเบาลง “คงไม่กล้าแล้ว”
สุริยงขมวดคิ้ว กำลังเปิดตู้เย็น เห็นว่าในตู้มีอาหารเต็มไปหมด
“หือ? ว่าไงนะคะ”
เอื้อตัดบท
“หนูเล็ก ผมต้องไปแล้ว คืนนี้พี่อัมให้ผมพาไก่ ไข่ ออกงานสังคมครั้งแรก ในฐานะทายาทของรัตน
ชาติ เปิดตัวกันเลยทีเดียว รับรองว่าได้ฮือฮาแน่”
อีกด้านหนึ่งเกนหลงเดินมาในชุดราตรีสวย สง่า จูงมือคู่แฝด ที่ ใส่ชุดสูทอย่างเท่ เอื้อมองตาค้า แล้ว
ก็ยิ้ม พูดโทรศัพท์ต่อ
“และที่สำคัญ ผมชวนเกนไปด้วย ไหนๆจะเปิดตัวน้องชายแล้ว ก็เปิดตัวแฟนไปด้วยเลย”
เกนหลงเลิกคิ้ว เอื้อยิ้มแอบเจ้าเล่ห์นิดๆ
สุริยงยิ้มยินดี
“ยินดีด้วยนะคะคุณเอื้อ ฝากนายสองแสบด้วยนะคะ”
เอื้อหันมาส่งโทรศัพท์ให้ไก่ ไข่
“ไก่ ไข่ ทักทายแม่หนูเล็กหน่อยครับ”
คู่แฝดแย่งกันพูดจนฟังไม่ได้ศัพท์
“แม่หนูเล็กสวัสดีครับ / คิดถึงแม่หนูเล็กที่สุดเลย รักแม่หนูเล็กที่สุดๆ จุ๊บ ๆ ครับ”
สุริยงหัวเราะ
“ครับๆ แม่หนูเล็กก็คิดถึงไก่ ไข่ นะลูก เป็นเด็กดีนะครับ”

คู่แฝดรับคำ สุริยงวางสายไปแล้วก็ยิ้มยินดี ก่อนจะมองไปรอบๆบ้านอีกครั้ง เบาใจขึ้น
ประตูรถตู้เปิดออก ไก่ ไข่ ขึ้นรถไปนั่งหลัง เหลือเอื้อกับเกนหลง ที่หยุดยืนคุยกันอยู่
“คุณสุเป็นยังไงบ้างคะ? พอจะมีข่าวดีหรือยัง?”
“พูดยาก ต้องลองลุ้นดู”
เอื้อจะหันไปขึ้นรถ เกนหลงเรียกไว้อีกรอบ
“เดี๋ยวค่ะพี่เอื้อ เมื่อกี๊บอกคุณสุว่านอกจากจะเปิดตัวน้องชายแล้ว จะเปิดตัวใครนะคะ?”
เอื้อยิ้ม
“เปิดตัวแฟน ไม่รู้ตัวหล่ะสิ นี่เราเป็นแฟนกันแล้วนะ”
เกนหลงแสร้งค้อน “แหม เนียนนะคะ คิดจะปรึกษากันก่อนมั้ยคะเนี่ย”
“อ้าว เรื่องแบบนี้พี่นึกว่า ไม่ต้องพูดก็รู้กันเอง โอเค งั้นเดี๋ยวพี่ให้เลขาทำจดหมายชี้แจงย้อนหลังให้
จะต้องทำจดหมายเวียนตามแผนกอื่นด้วยมั้ย ? จะได้ทำทีเดียว”
“ดีค่ะ ขอเป็นหนังสือชี้แจงแบบละเอียดนะคะ แจ้งด้วยว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และทำไมเราถึงเป็นแฟน
กัน ส่งให้คุณพ่อในฐานะประธานกรรมการ และรอว่าท่านจะอนุมัติหรือเปล่า”
“โอ้ว เล่นของสูงเลยนะเนี่ย”
เอื้อกับเกนหลงหัวเราะกันสนุกสนาน คู่แฝดโผล่หน้าออกมา
“จะจีบกันอีกนานมั้ยครับ?”
“ไข่หิวแล้ว”
เกนหลง กับ เอื้อ หัวเราะออกมาพร้อมกัน
“โอเคๆ จีบกันเรียบร้อยแล้วครับ ไปแล้วค้าบคุณน้องชาย”
คู่แฝด ยิ้มรับ เอื้อกับเกนหลงหันมามองหน้ากันอย่างมีความสุข เอื้อหันมาตั้งแขนขึ้น เกนหลงควง
แขน แล้วก็เดินมาขึ้นรถพร้อมกัน ไก่ ไข่ มองแล้วก็ยิ้ม บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรัก

ทางด้านสุริยง ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำ พร้อมใส่ชุดนอนเรียบร้อย พลางใส่เสื้อผ้าใช้แล้วลงตะกร้า
สำหรับซัก แล้วเดินมาที่ห้องนอน กำลังจะเดินไปที่หน้ากระจก แต่ก็ต้องชะงักกึก หันมาที่เตียง เห็นเตียงนอนเปิดผ้า
คลุมออกแล้ว หมอน ผ้าห่มถูกวางไว้อย่างน่านอน
“ใครมาเปิดผ้าคลุมเตียง”
สุริยงเดินมาข้างเตียง ที่หัวเตียงมีหนังสือเกี่ยวกับแม่และเด็กวางไว้ 4-5 เล่ม สุริยงหยิบมาดูยิ่งสงสัย
“หนังสือพวกนี้มาได้ยังไง?”
คิดๆ แล้วก็รีบเดินออกไปที่หน้าห้อง มองไปรอบๆ บ้าน แต่ไม่มีใคร สุริยงนึกถึงคำพูดของเอื้อ
“ผมส่งคนพิเศษไปดูแลเอง หนูเล็กไม่ต้องห่วง ปลอดภัย ไว้ใจได้”
สุริยงพยายามจะไม่คิดมาก แล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอน ก่อนที่จะหยิบหนังสือมานอนอ่านด้วย
ความสนใจ กระทั่งหลับไปคาหนังสือ ไม่ได้ห่มผ้า และยังไม่ปิดไฟ
ในขณะที่อีกมึมหนึ่งของบ้าน มีเสียงกุกกักๆ พร้อมกับร่างของเขมชาติ ที่โผล่เข้ามาในบ้าน พร้อม
กับช่อดอกไม้หนึ่งช่อใหญ่ พลางมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะย่องเข้ามาในบ้านอย่างแผ่วเบา และรีบย่อง
ขึ้นไปที่ห้องนอนทันที
เขมชาติค่อยๆเปิดประตูเข้ามา เอาหนังสือเก็บ ห่มผ้า และดับไฟ พร้อมกับเอาเสื้อผ้าที่สุริยงใส่แล้ว
ใส่เครื่องซักผ้า ล้างจาน เก็บจาน เก็บกวาด ทำความสะอาดบ้าน และพับผ้าอย่างเรียบร้อย ไม่เว้นแม้แต่เตรียม
ผ้าเช็ดตัวใหม่ในห้องน้ำ บีบยาสีฟันใส่แปรงแล้ววางไว้ พร้อมทั้งเปลี่ยนดอกไม้ในแจกัน และเตรียมอาหารเช้ารอท่า
ไว้
สุริยงรู้สึกตัวตื่นเมื่อนาฬิกาบอกเวลา 6 โมงเช้า เขมชาติรีบหลบออกไปทันที
สุริยงลงจากเตียง แล้วก็ชะงักกึก พลางมองไปรอบๆ เห็นหนังสือที่อ่านค้างวางไว้หัวเตียง ผ้าห่มที่ถูก
ดึงมาห่มตัวเอง ไฟในห้องดับ
“เมื่อคืน เราไม่ได้อยู่แบบนี้นี่”
สุริยงเอะใจ แล้วรีบเดินออกไปทันที เห็นสิ่งที่เขมชาติทำไว้เมื่อคืนด้วยความประหลาดใจ ดอกไม้ชุดใหม่ถูกวางไว้ ที่โต๊ะอาหารมีอาหารเช้ารออยู่ มีน้ำผลไม้ น้ำองุ่น นม ขนมปัง ผลไม้ วางไว้อย่างสวยงาม
“มาจัดตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”
สุริยงส่ายหน้าคาใจมาก แล้วก็เดินไปห้องน้ำ ผ่านตะกร้าผ้าก็ชะงัก เพราะเห็นว่าตะกร้าผ้าว่างเปล่า
พอมองไปที่โต๊ะข้างๆ เห็นว่าผ้ามีการซักและพับไว้แล้วอย่างสวยงาม สุริยงแปลกใจ
จากนั้นก็เดินเข้ามาในห้องน้ำ เห็นผ้าเช็ดตัว และแปรงสีฟันพร้อมยาสีฟันวางอยู่ สุริยงขมวดคิ้ว
“ แม่บ้านธรรมดาๆไม่ทำถึงขนาดนี้แน่ๆ”
สุริยงเริ่มสังหรณ์ใจบางอย่าง “คุณเอื้อ”

เอื้อรับโทรศัพท์ทางไกลจากสุริยง แล้วก็ระล่ำระลักรีบบอก
“ผมไม่มีอะไรปิดบังหนูเล็กจริงๆ แค่บอกไม่ได้”
ในขณะที่สุริยงคุยโทรศัพท์ที่หน้าชาโตว์ เดินคุยไปก็มองสำรวจรอบๆบ้าน ด้วยความสงสัย
“อะไรนะคะ?”
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร ก็นั่นแหละ ไม่ต้องห่วงครับ คนดูแลที่ผมส่งไป เขาไม่ใช่มิจฉาชีพ หรือ ฆาตกร
โรคจิต แล้วผมก็ให้กุญแจเขาไว้ เขาเลยเข้าบ้านได้ และที่เขาไม่อยากเข้าไปทำบ้านตอนคุณตื่น เพราะไม่อยากรบกวน
ก็แค่นั้น”
“แต่ออกมาให้เห็นหน้าหน่อยก็ยังดี ไม่ใช่ทำเป็นโสนน้อยเรือนงาม แอบมาทำความสะอาด ปัด
กวาดเช็ดถูตอนเจ้าของบ้านไม่รู้ตัว”
เอื้อหัวเราะ
“แต่อย่างน้อยโสนน้อยเรือนงามก็ไม่คิดทำร้ายใคร ทำให้เพราะความรัก ผมว่าก็โอเคนะ”

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนอวสาน(1) วันที่ 28 เม.ย. 57

ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตี
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 27/5 วันที่ 28 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 27/5 วันที่ 28 เม.ย. 57

“ถึงสนามบินแล้วแล้วอย่าลืมโทร. มาบอกด้วยนะลูก”
ประตูรถปิดลง และค่อยๆเคลื่อนออกไปข้างหน้าอย่างช้าๆ นภาได้แต่กอดไก่ ไข่ ไว้ จนแน่นด้วยความใจหาย

“นี่เราคิดผิด หรือคิดถูกคะเนี่ย ที่ทำแบบนี้”
“เอาน่า เดี๋ยวก็รู้”
อาทิตย์โอบปลอบใจเหมือนรู้อะไรบางอย่างกันอยู่แค่กันสองคน


ท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินไปเดินมาขวักไขว่เต็มสนามบิน เอื้อถือกระเป๋าลากใบเล็กยืนส่งสุริยง...
“พร้อมนะ”
“พร้อมค่ะ”
สุริยงเอื้อมมือไปจับหูลากกระเป๋าลากใบเล็ก และดึงกระเป๋ามาจากเอื้อ
“คุณเอื้อส่งหนูเล็กตรงนี้ก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่เป็นธุระจัดการให้ทุกสิ่งทุกอย่าง”
เอื้อยิ้มรับ “ด้วยความยินดี พอไปถึงที่โน่นแล้ว มีอะไรขาดตกบกพร่อง หรือต้องการอะไรเพิ่มเติม
บอกผมได้ทันทีนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
“แล้วก็ผมขอย้ำอีกทีนะว่า ไม่ว่าผมจะทำอะไรให้คุณ ผมทำด้วยความปรารถนาดี และผมต้องการแค่ให้คุณมีความสุข”
สุริยงมองเอื้ออย่างงงๆ
“คือว่า ผมหมายถึงทุกสิ่งที่ผมเตรียมไว้ให้ที่โน่น ผมเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดไว้ให้คุณ”
“ขอบคุณอีกครั้งนะค่ะ คุณเอื้อ คุณเอื้อไม่ต้องห่วงเรื่องของหนูเล็กนะคะ หนูเล็กดูแลตัวเองได้ ห่วงแต่เรื่องตัวเอง
เถอะค่ะ .รีบหาคำตอบว่าคิดยังไงกับคุณเกนกันแน่ รีบๆหน่อยนะคะ ถ้าช้าอาจจะต้องเสียใจ”
สุริยงยิ้มให้กำลังใจ เอื้อยิ้มรับ
“ไปก่อนนะคะ”
สุริยงกำลังจะหันหลังเดินไป แล้วก็แอบรู้สึกใจหายนิดๆ ที่จะต้องจากไปแล้วจริงๆ พลางก็คิดถึงเขมชาติขึ้นมา
วูบหนึ่ง แต่พยายามตัดใจไม่ให้คิดถึง แล้วก็หันหลังจะเดินไป แต่พอหันมาก็อึ้ง ตะลึงงัน
“คุณสมคิด คุณวิบูลย์”
สมคิด กับวิบูลย์หันมาตามเสียงเรียก แล้วก็สะดุ้ง
“เอ้ย คุณสุ”
สุริยงถามด้วยรอยยิ้ม
“คุณวิบูลย์ คุณสมคิด มาทำอะไรคะเนี่ย?”
สองคนมองหน้ากันแล้วก็ตอบ
“มาส่งลูกค้าครับ”
สมคิดรีบเล่นละครอย่างแนบเนียนไม่ให้จับได้
“แล้วนี่คุณสุละ จะไปไหนครับเนี่ย?”
วิบูลย์รีบเสริม “นั่นสิครับ จะไปไหน ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“สุกำลังจะไปสวิสค่ะ”
“อ๋อ ไปสวิส”
“ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ”
วิบูลย์รีบอวยพร
“ใช่ครับๆ ขอให้พบเจอแต่สิ่งดีๆ สิ่งที่ต้องการ สิ่งที่รอคอย คือผมหมายถึง ถ้ารอคอยความสุขก็ขอให้
เจอความสุขอะไรแบบนั้นน่ะครับ”
สมคิดตัดบท
“ผมว่า คุณสุรีบไปเถอะครับ เครื่องใกล้จะออกแล้วนี่ครับ รีบไปเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่ทัน”
“คุณสมคิดรู้ได้ยังไงคะว่าเครื่องสุใกล้จะออกแล้ว รู้เหรอคะว่าสุไปเที่ยวไหน”
สมคิดรีบแก้ตัว
“คือผมก็เดาเอาน่ะครับ ส่วนมากมาเวลานี้ ก็มีเหลืออยู่ไม่กี่เที่ยว ผมมาส่งลูกค้าบ่อย”
เอื้อตัดบท “ ถึงแล้วบอกด้วยนะ”
“ค่ะ คุณเอื้อเองได้คำตอบยังไงก็บอกหนูเล็กด้วยนะคะ”
เอื้อยิ้มรับ สุริยงหันมาทางวิบูลย์สมคิด ”ไปก่อนนะคะทุกคน”
“ครับ ขอให้เดินทางปลอดภัยครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
สุริยงยิ้มรับและลากกระเป๋าเดินไป เอื้อ สมคิด วิบูลย์ ยืนส่ง สุริยงแว่บคิดถึงเขมชาติขึ้นมา พลางหันมา
มอง ไปรอบๆ อีกที แอบคิดว่าเขมชาติอาจจะมาเซอร์ไพรส์ แต่แล้วก็ไม่มี

วันรุ่งขึ้นที่ห้องเรียนเต้นรำ ระหว่างที่คู่เต้นรำอื่นๆ กำลังซ้อมกันอย่างตั้งอกตั้งใจ เกนหลงกลับแอบมานั่ง
เหงาๆ รอสอบอยู่ในมุมเงียบๆ คนเดียว เศร้า...
กระทั่งเสียงครูเรียกขึ้น
“คุณเกนหลง พงษ์สุภา”
เกนหลงสะดุ้ง
“ค่ะ”
เกนหลงลุกขึ้น และเดินไปที่ฟลอร์
“แล้วคู่เต้นหล่ะ?”
“เอ่อ ไม่มีค่ะ”
“อ้าว งั้นก็” ครูมองนักเรียนคนอื่น “ขออาสาสมัครด้วย หนุ่มๆ ใครจะอาสาเป็นคู่เต้นให้คุณผู้หญิง
คนนี้หน่อย”
หนุ่มๆ แย่งกันชูมือสลอน ครูหันมาทางเกนหลง
“อะ มีอาสาสมัครหลายคนเลย เลือกมาสักคนก็แล้วกัน เชิญ”
“ค่ะ”
เกนหลงมองหนุ่มๆ แต่ก็เลือกไม่ถูก แล้วก็ตัดสินใจเลือกหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเป็นคนสุภาพเรียบร้อย
พลางผายมือกำลังจะเลือก ทันใดนั้นเสียงเอื้อก็ดังขึ้น
“ผมขอเป็นตัวเลือกอีกหนึ่งคนครับ”
ทุกคนมองไปที่ต้นเสียง เกนหลงหันมาอย่างช้าๆ เห็นเอื้ออยู่ในชุดสูทสำหรับเต้นรำ
“พี่เอื้อ”
“เรียกชื่อพี่ แสดงว่าเลือกพี่เป็นคู่เต้นแล้วนะ ห้ามเปลี่ยนใจ” เอื้อยิ้มกวน
เกนหลงยังอึ้ง งง ครูตัดบท
“ได้คู่แล้ว ก็เริ่มเลย”
ดนตรีขึ้น เอื้อโค้งและดึงเกนหลงมาเต้นรำ ทั้งคู่เต้นไป คุยกันไป ตามจังหวะของดนตรี
“พี่เอื้อมาได้ไงคะ แล้วไม่ไปสวิสกับคุณสุไม่ใช่เหรอคะ”
“พี่ยกเลิกไปแล้วเพราะหนูเล็กบอกว่า ที่เราไปฝากฝังเขาไว้ เขาดูแลไม่ไหว เลยไม่ให้พี่ไปด้วย ปล่อย
พี่ไว้ที่นี่ ให้เราเป็นคนดูแลพี่เอง”
เกนหลงอึ้ง
“จริงเหรอคะ? เพราะคำพูดของเกนทำให้คุณสุทิ้งพี่เอื้อจริงเหรอคะ?”
“ล้อเล่น” เอื้อยิ้มกวน เกนหลงโล่งอก
“แต่เพราะคำพูดของเราทำให้หนูเล็กรู้ว่า เรารู้จักพี่เป็นอย่างดี และก็ยังบอกอีกว่าสิ่งที่เกนมี ไม่ใช่แค่
ความห่วง แต่มันเป็นความรัก”
เกนหลงอึ้ง หน้าแดง
“ทำให้พี่ตัดสินใจไม่ไปสวิส แล้วก็มาที่นี่ เพื่อจะบอกว่า ไม่ใช่แค่จะมาเต้นรำ แต่จะมาเพื่อบอกว่า พี่
รักเกน”
เกนหลงอึ้ง ใจเต้นโครมคราม พูดไม่ออกทั้งดีใจ ทั้งเขิน ทั้งอาย ปนเปไปหมด สองคนมองตากัน
“รักตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พอรู้ตัวก็อยากอยู่ใกล้ คิดถึง มีความสุขทุกครั้งที่ได้คุย ได้เห็นหน้า แล้วก็เริ่ม
รู้ว่าอยากมีชีวิตแบบที่มีเกนอยู่ข้างๆ ตลอดไป”
เกนหลงน้ำตาคลอ เอื้อยิ้มอบอุ่น
“ที่พูดมาทั้งหมดเมื่อกี๊ เกนก็เป็นเหมือนกับพี่เอื้อ ถูกทุกข้อเลยค่ะ”
“ลอกกันแบบนี้เลยเหรอ พี่คงต้องเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ซะแล้ว”

เสียงหัวเราะของเอื้อและเกนหลงดังขึ้นอย่างเบิกบาน ทั้งสองคนเต้นรำด้วยกันอย่างมีความสุข
เช้าวันที่อากาศสดใส สุริยงเดินทางมาถึงชาโตว์ของเจ้าสัวชลิต ก่อนทื่จะเงยหน้ามองบ้านด้วย
ความคุ้นเคย จากนั้นเดินเข้ามาภายในบ้าน พลางนำกระเป๋ามาวาง ระหว่างที่วางกระเป๋าก็สะดุดกึก กับกลิ่นหอม
ของขนมปังที่เพิ่งอบใหม่
สุริยงสูดกลิ่นขนมปังเต็มปอด แล้วก็มองหาต้นตอของกลิ่น ก่อนที่จะเดินเข้ามาในห้องรับประทาน
อาหาร แล้วก็ชะงักนิดๆ เมื่อมองเห็นขนมปังอบอุ่นๆ วางอยู่ พร้อมกับผลไม้ และน้ำองุ่น
“ยังอุ่นอยู่เลย”

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 27/5 วันที่ 28 เม.ย. 57

ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตี
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3

อ่านละคร ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 6 วันที่ 28 เม.ย. 57

อ่านละคร ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 6 วันที่ 28 เม.ย. 57

ธัญ กรยังทำใจเรื่องวีด้าได้ไม่ดีนัก พยายามวางเฉยและหมางเมินทุกอย่างจนรัชนารู้สึกแปลกๆ แต่เมื่อเห็นสายตาที่เขามองวีด้าเลยพอเดาออกว่าคงอกหักรักคุดเพราะเจ้านาย สาวจะหมั้นหมายกับคัชพล ธัญกรไม่ชอบใจที่เธอทำท่าเหมือนรู้ทัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากเพราะเขาคงเปลี่ยนใจเธอไม่ได้อยู่ดี

ฝ่ายยศสรัลร้อนรนนั่งแทบไม่ติดเมื่อเห็นข่าวการร่วมทุนของคัชพลกับวีด้า สังหรณ์ใจบางอย่างว่าวีด้าอาจมีแผนการร้ายกับธุรกิจของครอบครัว แต่ด้วยนิสัยสุภาพและมีเหตุผล เลยเลือกไปถามพ่อและพี่ชายอย่างตรงไปตรงมา พร้อมกับบอกว่าไม่เห็นด้วยที่ไปร่วมทุนจำนวนมหาศาลขนาดนี้โดยไม่ไตร่ตรองให้ ดี


“แล้วใหญ่มันไม่คิดให้ดียังไง ธุรกิจด้านนี้เราเก่งที่สุด การที่หนูวีด้าเขามาช่วยลงทุน เราก็มีแต่ได้”

“แต่ลงทุนสูงขนาดนี้ อาจทำให้เราขาดสภาพคล่องแล้วกระทบธุรกิจหลักของเรา ทำให้เรามีปัญหาได้นะครับ”

“มันจะมีปัญหาได้ยังไง อีกหน่อยพี่แกก็แต่งงานกับหนูวีด้า มันจะต่อยอดธุรกิจให้เราน่ะสิไม่ว่า”

“พี่ว่านายอย่าคิดมาก เรื่องความก้าวหน้าของบริษัทมันเป็นหน้าที่ของพี่กับคุณพ่อ...ไม่ใช่ของนาย”

คำประกาศกร้าวของพี่ชายทำให้ยศสรัลหัวเสีย พยายามเก็บอาการ แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ ต้องไปถามจากวีด้าให้รู้เรื่องว่าต้องการอะไรจากครอบครัวเขากันแน่ วีด้าไม่ยอมลงมาพบและปล่อยเวลาจนเย็นถึงลงไปขึ้นรถกลับบ้าน แต่แล้วเธอก็ต้องหน้าเสียเมื่อเห็นว่าเขายังรอที่เดิมอย่างอดทน

“ถ้าคุณไม่ยอมคุยกับผม ผมจะลากคุณขึ้นรถ แล้วถ้าคุณขัดขืนหรือร้องให้คนช่วย คนในบริษัทคุณก็จะได้เห็นว่าคุณโดนผู้ชายดักฉุดหน้าบริษัทตัวเอง เป็นข่าวหน้าหนึ่ง ดังระเบิดเลยทีนี้!”

วีด้าตามไปคุยอย่างเสียไม่ได้ ยศสรัลไม่รอช้าและถามเรื่องลงทุนร่วมทันทีว่าต้องการอะไรกันแน่ วีด้าทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ อ้างว่าเป็นเรื่องธรรมดาของนักธุรกิจที่ต้องการขยายกิจการ ยศสรัลไม่เชื่อสวนกลับ

“มันจะไม่แปลกได้ยังไง คุณพยายามเข้ามาพัวพันครอบครัวผม ทำให้พี่ใหญ่กับนายเล็กชอบคุณ ชวนนายเล็กมาทำงานด้วย ชวนพี่ใหญ่ร่วมธุรกิจ คุณว่ามันไม่แปลกเหรอ”

“คุณนี่เป็นคนขี้ระแวงจริงๆนะ ถ้าฉันบอกว่าชอบคุณใหญ่ ฉันก็ต้องทำดีกับครอบครัวคุณ มันแปลกตรงไหน”

“นี่คงเป็นวิธีการจับผู้ชายของคุณ”

“คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว...ทำไมล่ะคะ หรือจะต้องให้ฉันชอบคุณ”

ยศสรัลอึ้งไปอึดใจ จ้องหน้าวีด้าเพื่อค้นหาความจริงจากดวงตาเธอ บังเกิดความคุ้นเคยบางอย่างจนอดเปรยออกไปไม่ได้ว่าเธอคือแพร...เด็กสาวที่ เขาเคยแอบหลงรักในอดีต วีด้าหน้าเสียส่อพิรุธอย่างแรง พยายามบ่ายเบี่ยงและขอตัว แต่ยศสรัลไม่ยอมให้โอกาสหลุดลอย ตรงเข้าไปรั้งตัวเธอแล้วดึงมาใกล้

“คุณคือแพรจริงๆ เมื่อหกปีก่อนคุณหายไปไหน คุณหนีไปแล้วจู่ๆคุณก็กลับมา ผมไม่เข้าใจ คุณกำลังทำอะไร คุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่าคุณต้องการอะไร”

วีด้ามัวแต่ตะลึงที่เขาพูดเรื่องในอดีต แต่เมื่อรวบรวมสติได้ก็พยายามผลักตัวออกและแหวลั่น

“คุณเป็นบ้าอะไร ฉันไม่ได้ชื่อแพร แล้วก็ไม่เคยรู้จักคุณ ถ้าคุณจะมาพร่ำเพ้อว่าฉันเป็นผู้หญิงคนนั้น...ฉันขอตัว”

วีด้าผลุนผลันจากไปแล้ว ยศสรัลไม่ยอมแพ้ตะโกนไล่หลัง “ถึงคุณจะไม่ยอมรับ แต่ผมต้องสืบความจริงให้ได้!”

ooooooo

บัญชาพยายามขอเจอกำธรเพื่อจัดการสู่ขอตามประเพณี แต่วีด้าบ่ายเบี่ยง อ้างว่าพ่อบุญธรรมไม่ค่อยสะดวกระยะนี้เพราะงานที่สิงคโปร์ยุ่งมาก แต่ความจริงคือเธอยังเคลียร์กับเขาไม่เรียบร้อย โดยเฉพาะเรื่องเอาตัวไปเสี่ยงจนอาจเกิดอันตรายแก่ชีวิต หากบัญชาทราบความจริงว่าเธอเป็นใคร

“อาเคยสูญเสียภรรยากับลูกจากอุบัติเหตุ อาไม่ต้องการสูญเสียวีด้าไปอีกคน”

“วีด้าสัญญาค่ะ ว่าเมื่อไหร่ที่นายบัญชาได้ชดใช้...วีด้าจะหยุดค่ะคุณอา”

ฝ่ายยศสรัลไม่ละความพยายามจะยกเลิกสัญญาร่วมทุน เมื่อหยุดวีด้าไม่ได้ เขาจึงเบนเข็มไปที่พ่อกับพี่ชาย บัญชาโกรธมาก โดยเฉพาะเมื่อลูกชายคนกลางพร่ำบอกว่าเขาเลือกทางผิด และอาจกลายเป็นเครื่องมือทำบางอย่างของวีด้า คัชพลก็ไม่ชอบใจที่น้องชายตั้งแง่กับคนรักสาวตลอดเวลา ยศสรัลจะอธิบายแต่บัญชายกมือห้ามพร้อมพูดตัดบท ไม่อยากฟังอะไรอีกแม้แต่คำเดียวจากลูกชายคนกลาง

“จำไว้นะสรัล คนที่จะทำให้บริษัทเราพลาดน่ะคือแก ถ้าโรงแรมนี้สร้างเสร็จ บริษัทเราก็จะโตโดยไม่ต้องทำอะไร แล้วพี่ชายแกก็จะแต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นทายาทคนเดียวของมหาเศรษฐีหมื่น ล้าน ฉันไม่ยอมให้แกมาขวางหรอก”

ขาดคำบัญชาก็ทรุดตัวกับพื้นเพราะมีอาการปวดจี๊ดที่หน้าอกจนทรงตัวแทบไม่ได้ คัชพลกับยศสรัลตกใจมาก ถลาไปประคองพ่อด้วยความเป็นห่วง บัญชารู้ตัวดีว่ามีความผิดปกติบางอย่างแต่ยังทำเป็นเก่ง ตีหน้านิ่งบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่นอนน้อยไปเท่านั้น คัชพลเชื่อสนิทใจ ต่างจากยศสรัลที่มองมาเครียดๆ...กลัวพ่อจะเป็นโรคร้ายแรง

อาการของบัญชาไม่ธรรมดาอย่างที่ยศสรัลนึกกลัวจริงๆ เมื่อวีด้ามาทานข้าวเย็นด้วยในวันถัดมาก็ได้เห็นหนุ่มใหญ่ทรุดกับพื้นในสภาพ หน้าตาซีดเผือด ยศสรัลร้อนใจมาก ซักถามพ่อเสียงเครียดว่าเหตุใดถึงไม่ยอมไปหาหมอ บัญชาชักสีหน้า ดื้อรั้นไม่ยอมไปตามประสาคนที่คิดว่าตัวเองเอาชนะได้ทุกสิ่ง วีด้าลอบยิ้มร้ายแล้วช่วยกล่อมให้ไปตรวจเพื่อให้คนในครอบครัวหายห่วง บัญชาเอ็นดูว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้มากเลยยอมรับปากจะไปเมื่อมีเวลา

ยศสรัลอดแปลกใจไม่ได้ที่หญิงสาวผู้ต้องสงสัยก่อกวนครอบครัวเขาจะทำเรื่องน่า ชื่นชม เขายอมละความโกรธก่อนหน้าและตามไปขอบคุณเธอจากใจจริง วีด้าสูดลมหายใจยาวเรียกกำลังใจให้ตัวเองและบอกว่าไม่เป็นไร ยศสรัลอดยิ้มให้เธอไม่ได้ รู้สึกดีจริงๆที่ได้เห็นอีกด้านที่แสนอ่อนโยนของเธอ

วีรกรรมของวีด้าที่ทำให้บัญชายอมไปหาหมอ ทำให้คัชพลหลงใหลและไว้ใจในตัวเธอมากขึ้นเรื่อยๆ วีด้าตัดสินใจดำเนินการตามแผนขั้นต่อไปด้วยการล่อลวงให้เขาสูญเสียเงินสดใน มือมากขึ้น หญิงสาวแกล้งพาเขาไปดูที่ดินและเอ่ยปากระบายความกังวล กลัวคนอื่นจะมาซื้อที่รอบๆไปทำธุรกิจแย่งตลาด คัชพลเดาใจเธอได้ว่าอยากได้ที่ดินรอบข้าง เลยรับปากไปจัดการให้โดยไม่ระแวงแม้แต่น้อย

เมื่อเกรซทราบเรื่องว่าเพื่อนรักต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงขนาดนั้นก็พยายาม เตือนสติให้คิดถึงคนรอบข้าง หากเกิดผิดพลาดเธออาจไม่ได้เจอใครอีกเลย แต่วีด้าไม่กลัวและเดินหน้าสั่งให้นายหน้าที่ดินที่จ้างมาเป็นกรณีพิเศษตั้ง ราคาให้สูงลิ่วเพื่อดึงเงินออกจากมือคัชพลให้มากที่สุด

คัชพลไม่เอะใจใดๆและยอมทุ่มสุดตัวเพื่อที่ดินอย่างที่วีด้าต้องการ หวังเอาหน้าและพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่าสามารถควบคุมทุกอย่างได้ แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อกรรมการโครงการไม่อนุมัติค่าที่ดินเพราะราคาสูงเกินไป บัญชาโกรธมากที่ลูกชายไม่รอบคอบ แต่เพราะเล็งกำไรมหาศาลหลังจากเสร็จโครงการเลยยอมให้เรื่องผ่านไป อีกอย่าง...ใกล้ถึงวันหมั้นของลูกชายกับวีด้าเต็มที ยังไงเสีย...ทองก็ไม่หายไปไหนแน่ คงต้องล่มในหนองของเขานี่แหละ!

ooooooo

แม้จะมีเหตุขลุกขลักบ้างเรื่องการร่วมทุน แต่แผนการของวีด้าทำให้ครอบครัวบัญชาตายใจและไว้ใจก็เป็นไปได้ด้วยดีอย่าง ไม่น่าเชื่อ มีเพียงยศสรัลที่เฝ้ามองทุกอย่างด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจ โดยเฉพาะเจตนาแฝงของวีด้าที่เขาไม่เคยหาคำตอบได้ เมื่อเจอหน้าเธอที่บริษัทในเช้าวันหนึ่งก็อดเปรยเรื่องแต่งงานกับคัชพลไม่ ได้

“ผมไม่อยากให้คุณแต่งกับพี่ใหญ่เพราะผมไม่ไว้ใจเจตนาร้ายของคุณ”

“งั้นคุณก็รู้ไว้เลยว่าฉันไม่ได้ต้องการเงินของครอบครัวคุณเลยสักนิด และวันนี้...ฉันมาที่นี่เพราะคิดถึงคุณใหญ่”

อ่านละคร ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 6 วันที่ 28 เม.ย. 57

ละครไฟรักเพลิงแค้น บทประพันธ์โดย จินโจว
ละครไฟรักเพลิงแค้น บทโทรทัศน์โดย โซนิกซ์ทีม
ละครไฟรักเพลิงแค้น กำกับการแสดง : ชุดาภา จันทรเขต
ละครไฟรักเพลิงแค้น ละครแนว โรแมนติก ดราม่า
ละครไฟรักเพลิงแค้น ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.20 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 27/4 วันที่ 27 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 27/4 วันที่ 27 เม.ย. 57

“นี่ครับตั๋วเครื่องบินของหนูเล็ก เครื่องจะบินออกตอนเที่ยงคืน เดี๋ยวผมมารับเราไปพร้อมกัน”
สุริยงรับตั๋วมา แล้วตัดสินใจพูด
“คุณเอื้อไม่ต้องไปสวิสกับหนูเล็กหรอกค่ะ คุณเอื้อไม่จำเป็นต้องเสียสละมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น
หนูเล็กดูแลตัวเองได้”

เอื้อนิ่งชะงัก
“ผมว่าเราคุยเรื่องนี้กันเข้าใจแล้วนะ ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ปล่อยให้คุณไปคนเดียวแน่นอน”
“ใช่ค่ะ แต่ตอนนั้นที่เราคุยกัน หนูเล็กยังไม่รู้ว่าคุณเกนรักคุณ”


สุริยงพูดเรียบๆ หากก็ทำให้เอื้อถึงกับหันขวับกลับมา
“รู้ว่าอะไรนะ? ขออีกที”
“คุณเกนรักคุณเอื้อค่ะ
เอื้อ ช็อก ใจเต้นแรงแทบทะลุอก
“จริงเหรอ ? ละ แล้วหนูเล็กรู้ได้ยังไง ? ทะ ทำไมถึงรู้?”
“คุณเกนให้หนูเล็กสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณเอื้อเสียใจ เธอขอร้องให้หนูเล็กดูแลและอยู่เคียงข้างคุณ
เอื้อ และทำให้คุณเอื้อมีความสุขที่สุด”
เอื้อฟังนิ่งตัวชา
“การที่ใครสักคนอยากให้ใครอีกคนมีความสุขยิ่งกว่าตัวเอง ดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของเขาแม้ว่าเรา
จะต้องเสียน้ำตา ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่า”ความรัก”ไม่ใช่เหรอคะ หนูเล็กพึ่งเห็นความรู้สึกเหล่านั้นจากแววตาของ
คุณเกนเวลาพูดถึงพี่เอื้อ เธอคือคนที่อยากเห็นพี่เอื้อมีความสุขที่สุดกว่าใครๆในโลก มันทำให้หนูเล็กมั่นใจว่า คุณเกน
รักคุณเอื้อค่ะ”
เอื้ออึ้ง “แต่...” ในใจอยากจะพูดต่อว่าหนูเล็กคือคนที่ผมต้องดูแล หากสุริยงรีบพูดแทรกขึ้น
“ไม่ต้องห่วงหนูเล็กค่ะ คุณเอื้อทำเพื่อหนูเล็กมามากแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องทำเพื่อตัวเองบ้างนะคะ
คนดีๆไม่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตได้บ่อยๆ ถ้าเจอแล้ว อย่าปล่อยให้หลุดมือไปนะคะ”
สุริยงจับมือเอื้อ เพื่อขอบคุณ และให้กำลังใจ
“คุณเกน เผยความรู้สึกของตัวเองออกมาแล้วนะคะ คุณเอื้อเองก็น่าจะรีบหาคำตอบและบอก
ความรู้สึกของตัวเองให้เธอรู้ ก่อนที่จะสายเกินไป”
สุริยงยิ้มให้กำลังใจ แล้วก็เดินเข้าบ้านไป เอื้อยืนตัวลอยๆ ยังอึ้ง และคาดไม่ถึง

“น้าสุไม่ไปไม่ได้เหรอคะ?”
ฮันนี่กับสุริยงนั่งกอดกัน ในขณะที่ชนะนั่งอยู่อยู่อีกฝั่ง
“มันก็ได้ แต่น้าสุก็อยากไปพักผ่อน นอนเล่นบ้างนี่คะ หรือว่าฮันนี่ไม่อยากให้น้าสุไปพัก”
สุริยงพูดพลางลูบหัวฮันนี่
“น้าสุไปพักที่รีสอร์ทฮันนี่กับคุณพ่อก็ได้นี่คะ ฮันนี่ให้พักฟรี ไม่มีชาร์จ”
สุริยงยิ้ม “ขอบใจจ้า เอาไว้ถ้าน้าสุกลับมาเมื่อไหร่ จะรีบไปหาทันที”
ฮันนี่ชูนิ้วก้อย “สัญญานะคะ”
สุริยงเกี่ยวก้อย “สัญญาค่ะ”
ชนะรีบพูดแทรกขึ้นบ้าง
“ดีนะครับที่ผมเอะใจ เห็นเงียบๆกันไป เลยโทร.มาที่บ้าน พอชื่นบอกก็รีบชวนฮันนี่มาทันที ไปคราว
นี้คุณสุจะกลับมาเมื่อไหร่ครับ”
“เอ่อ คงจะอีกสักพักค่ะ”
“คุณสุไม่ได้ไปเพราะโกรธผม เรื่องที่ผมไปบอกว่าคุณหนีไปอยู่บ้านพักผมใช่มั้ยครับ”
สุริยงหัวเราะ
“ไม่ใช่เลยค่ะ สุจะโกรธคุณทำไมคะ คุณทำไปเพราะเป็นห่วง สุเข้าใจค่ะ”
ชนะยิ้ม โล่งอก “เฮ่อ แล้วไป เออ แล้วเรื่องสุขภาพของคุณสุ”
ชนะถามเลี่ยงๆ สุริยง ก็ตอบเลี่ยงๆ เช่นกัน
“อย่าไปพูดถึงมันเลยค่ะ มันเป็นแค่ความเข้าใจผิด ขอบคุณมากนะคะที่เป็นห่วง”
“ด้วยความยินดี คุณสุอย่าลืมนะครับ กลับมาเมื่อไหร่ ไปหาผมกับฮันนี่ได้ตลอดเวลา”
“คุณชนะกับฮันนี่ก็เหมือนกัน บ้านนี้ยินดีต้อนรับเสมอ”
“ขอบคุณครับ”
สุริยงหันมาพูดกับฮันนี่
“ฮันนี่มาเล่นกับไก่ ไข่ ได้ตลอดเวลานะคะ น้าสุฝากน้องๆด้วย”
“ได้เลยค่ะ ฮันนี่จะช่วยเทรนไก่ กับ ไข่ให้ออกงานสังคม แล้วก็เตรียมตัวเป็นนายธนาคารในอนาคต
ค่ะ ฮันนี่รักน้าสุนะคะ”
พูดพลางหอมแก้มสุริยงฟอดใหญ่ สุริยงหอมคืน
“น้าสุก็รักฮันนี่ค่ะ”
จากนั้นทั้งสองคนหัวเราะสดใส ชนะมองแล้วก็ยิ้มตาม พลางมองสุริยงด้วยความเสียดาย
หลังจากที่ชนะกับฮันนี่กลับไปแล้ว สุริยงก็เดินมาที่ห้องนอนไก่ ไข่ พลางเคาะประตู
“ไก่ ไข่ ทำอะไรลูก ไก่ ไข่” หากไม่มีเสียงตอบจากในห้อง “แม่หนูเล็กเข้าไปนะครับ”
เมื่อเปิดเข้าไป เห็นไก่ กับไข่ นั่งหันหลังให้ กอดอกนิ่งๆ สุริยงเห็นแล้วก็รู้ทันทีว่าน้อยใจ
“โกรธแม่หนูเล็กใช่มั้ยครับ ถึงได้ไม่ยอมออกจากห้องไปหาพี่ฮันนี่ ไหนหันหน้ามาสิ มาคุยกัน”
สุริยงหันไก่ ไข่ กลับมา ห้เผชิญหน้ากัน ถึงได้เห็นว่าไก่ ไข่ ร้องไห้ สุริยงใจอ่อนยวบ
“ไก่ ไข่ ร้องไห้ทำไมลูก” พูดพลางดึงคู่แฝดเข้ามากอด “ โถๆๆ. ทำไมมาแอบร้องไห้อยู่ที่นี่ มีอะไร
ครับ? บอกแม่หนูเล็กสิ”
“แม่หนูเล็กจะทิ้งเราสองคน”
“แม่หนูเล็กไม่รักไก่ กับ ไข่แล้ว”
สุริยงแทบจะหัวใจสลาย ทั้งกอด ทั้งหอมลูกแฝดทั้งสองด้วยความรัก
“โถ ลูกแม่ ทำไมคิดแบบนั้น ไม่จริงเลยนะครับ แม่หนูเล็กไม่ได้ทิ้งไก่ ไข่ และแม่หนูเล็กก็ยังลูก
เหมือนเดิม”
“แล้วทำไมต้องไป”
คำถามซื่อๆ ของไก่ ทำเอาสุริยงสะอึก พลางตั้งสติคิด และค่อยๆ ขยับตัว
“แม่หนูเล็กไปเพราะไม่ค่อยสบาย แม่หนูเล็กต้องไปรักษาตัว และพักผ่อน”
ไก่ กับ ไข่ ค่อยๆเปลี่ยนจากเสียใจ เป็นห่วง
“ไม่สบาย เป็นอะไร ครับ?”
“เจ็บมั้ย?”
สุริยงยิ้ม
“ไม่เจ็บครับ แต่แม่หนูเล็กต้องไปรักษาที่โน่น เพราะไม่เหมาะสมที่จะรักษาที่นี่ ไก่ ไข่ เข้าใจแล้วนะ
ครับ แม่หนูเล็กไม่ได้ทิ้งลูก และยังรักลูกเหมือนเดิม อย่าคิดแบบนี้อีกนะ รู้หรือเปล่า ไม่ว่าจะเกิดขึ้น ไม่มีวันที่แม่จะทิ้ง
เราสองคน และไม่มีวันที่จะเลิกรักด้วย จำไว้นะครับ”
ไก่ ไข่ พยักหน้า แล้วก็โผเข้ากอดสุริยง
“ไก่ก็รักแม่หนูเล็ก”
“ไข่ก็รัก รักมากๆๆ เลยครับ”
สุริยงยิ้มขำๆ พลางกอดไก่ กับไ ข่ด้วยความรัก และน้ำตาซึมๆ ใจหายที่ต้องจากกัน

ในขณะที่เกนหลงนั่งเศร้าๆ คุณพจน์เดินมาหา
“ถ้าพ่อจำไม่ผิด พรุ่งนี้เรากับเอื้อมีสอบเต้นรำใช่มั้ย ?”
เกนหลงตอบเศร้าๆ “คงจะเหลือแค่เกนคนเดียวแล้วหล่ะค่ะ”
“อ้าว” คุณพจน์หน้าเหวอ
“คืนนี้พี่เอื้อเขาไปสวิสกับคุณสุค่ะ ไปแบบไม่มีกำหนดกลับ”
“แล้วเอื้อเขาบอกหรือเปล่าว่าทำไมถึงทำแบบนี้?”
“พี่เอื้อไม่ได้บอกอะไรเลยค่ะ ไม่ได้พูดสักคำ เกนรู้เพราะพี่อัมมาบอก แต่เกนเข้าใจค่ะ แค่สอบเต้นรำ
สมัครเล่น มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร เมื่อเทียบกับคุณสุ”
เกนหลงระบายความรู้สึก คุณพจน์ฟังด้วยความเห็นใจ
“พี่เอื้อรักคุณสุมากนะคะ ขนาดรู้ว่าท้องลูกของเขม ก็ยังรับได้ เกนนับถือความรักของสองคนนี้จริงๆ
พี่เอื้อเป็นคนดี คุณสุเป็นคนดี ทั้งสองคนเหมาะสมกันที่สุดแล้วค่ะ”
คุณพจน์โอบเกนลูกสาว พลางพูดปลอบใจ

“ลูกพ่อก็เป็นคนดี สักวันก็คงจะได้เจอคนที่คู่ควร”
ในขณะที่เอื้อยืนอยู่ที่หน้าบ้านสุริยง ใบหน้าครุ่นคิด สุริยงยืนอยู่หน้าบ้าน มองบ้านอีกครั้งด้วยความ
อาลัย อาทิตย์ นภา ชื่น ไก่ ไข่ ยืนส่ง

“เดินทางดีๆนะลูก” นภาให้พรลูกสาว อาทิตย์รีบพูดดด้วยความเป็นห่วง
“ถึงแล้วรีบส่งข่าวด้วย”
“ค่ะคุณพ่อคุณแม่รักษาสุขภาพ อย่าทำขนมหนักนะคะ แล้วก็ไม่ต้องคอยวิ่งป้อนข้าวไก่ ไข่ ให้เขาหัด
ทานเอง เสื้อผ้าก็ให้เลือกใส่เอง ไม่ต้องไปจัดให้เขานะคะ ถุงเท้าก็เหมือนกัน”
เอื้อเอื้อมมือมาแตะแขนสุริยงเป็นเชิงเตือน
“หนูเล็กๆ เครื่องออกเที่ยงคืนนะ เดี๋ยวไม่ทัน”
“หนูเล็กรักคุณพ่อ คุณแม่นะคะ”
นภากอดสุริยงไว้แน่น น้ำตาซึม “แม่ก็รักหนูเล็ก.รักมากที่สุดในโลกเลยนะลูก”
อาทิตย์กอดทั้งสองไว้ ไก่ ไข่ มองตาปริบๆ สุริยงคลายกอดนภาแล้วก็หันมาทางไก่ ไข่ มองหน้า
ลูกชายแฝดแล้วไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่ดึงมากอดด้วยความรัก
“เป็นเด็กดีนะลูกนะ แม่หนูเล็กจะคิดถึงไก่ ไข่ ทุกวัน ทุกเวลา ทุกนาที ทุกวินาทีเลยนะครับ”
“ไก่ก็จะคิดถึงแม่หนูเล็กครับ”
“ไข่ด้วยครับ”
สุริยงกอดลาลูกชายแฝดคนจนฉ่ำใจ แล้วก็ลุกขึ้น หันมาลาชื่น
“ชื่น ฝากทุกๆคนด้วยนะคะ”
ชื่นยิ้มแป้น “ ได้ค่ะ แต่ชื่นรับฝากไม่นานนะคะ คุณหนูเล็กต้องรีบมารับคืนไปนะคะ”
“เอาเป็นว่า หนูเล็กกลับมาเมื่อไหร่ จะจ่ายดอกให้อย่างสาสม”
สุริยงยิ้ม แล้วก็หันมามองหน้าทุกคนอีกครั้ง
“ไปนะคะคุณพ่อคุณแม่ สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับแม่หนูเล็ก”
เอื้อเดินนำขึ้นรถไป สุริยงขึ้นตาม
นภาตะโกนตามหลังไป
“ถึงสนามบินแล้วโทร. มาบอกด้วยนะลูก”
ประตูรถปิด และค่อยๆเคลื่อนออกไป นภาได้แต่กอดไก่ ไข่ ไว้ ด้วยความใจหาย

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 27/4 วันที่ 27 เม.ย. 57

ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตี
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 27/3 วันที่ 27 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 27/3 วันที่ 27 เม.ย. 57

“ไม่มีเวลากำหนดกลับ” น้ำเสียงของอรทัย จริงจังบ่งบอกว่าไม่ได้กำลังพูดเล่น
“หะ? ไม่มีเวลากำหนดกลับ นี่เราจะทิ้งพี่ ทิ้งงาน ทิ้งทุกอย่างไปง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ”

“ก็พี่อัมมีน้องใหม่แล้วนี่คะ มีไอ้ลิงสองตัวนั้น พี่อัมจะต้องการอรไปอีกทำไม ส่วนเรื่องงานก็เห็นหมาย
มั่นปั้นมือจะส่งเสียให้มันเรียนดีๆ จบมาช่วยพี่เอื้อ หุ้นธนาคารก็ใส่พานถวายให้มันไปแล้ว ทีพี่อัมยังไม่คิดถึงจิตใจอรแล้วทำไม อรจะต้องไปคิดถึงคนอื่นด้วย”


อัมพิกาส่ายหน้า อรทัยตัดบท
“เชิญพี่อัมอยู่กับไอ้เด็กสองคนนั้นไปก็แล้วกัน อรจะไปตามทางของอร”
พูดจอรทัยบก็สะบัดหน้าจะไป อัมพิกาพูดตามหลัง
“เราจะไปก็ไปพี่ไม่ห้าม ถ้าเราไปจนเหนื่อย คิดอยากจะพัก กลับบ้านมาได้ตลอดเวลา พวกเราทุกคน
ยินดีต้อนรับเสมอ ที่นี่ยังมีพี่ มีเอื้อและมีน้องชายอีกสองคน รอเราอยู่”
อรทัยสะท้านในใจ แต่ด้วยความดื้อ ก็ยังยืนยันที่จะไป
“พี่อัมแน่ใจได้ยังไงคะ ว่าพี่เอื้อจะอยู่ที่นี่รออร เพราะตัวเขาเองก็จองตั๋วไปสวิสกับนังสุริยงสองต่อ
สอง”อัมพิกาขมวดคิ้ว แปลกใจ “และก็ไปแบบไม่มีกำหนดกลับด้วยนะคะ พี่อัมทำหน้างงแบบนี้ แสดงว่าพี่เอื้อไม่ได้
บอกใช่มั้ยคะ?”
อัมพิกาไม่ตอบ อรทัยเบ้ปาก พลางพูดต่อ
“พี่อัมกำลังโดนไอ้คนบ้านนั้นมันหลอก มันจะปอกลอกเอาทุกอย่างไปจากพี่อัม ทั้งเงินทอง หุ้น
ธนาคาร กิจการ รวมทั้งพี่เอื้อ พี่อัมจะยอมให้มันปอกลอกก็เชิญตามสบาย แต่อรไม่ยอม พวกมันจะไม่มีวันได้อะไรไป
จากอรทั้งนั้น”
อรทัยพูดจบก็เดินสะบัดหน้า ไปขึ้นรถ คนรับใช้ขนกระเป๋าตาม และรถค่อยๆแล่นออกไป อัมพิกา
คิดคาใจเรื่องเอื้อ จากนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์แล้วก็โทร.ไปหาเอื้อ
“เอื้อ พี่อยากรู้เรื่องที่เราจะไปสวิสกับสุริยง มันเกิดอะไรขึ้น เล่าให้หมด”
น้ำเสียงของอัมพิกา ที่ออกคำสั่ง ฟังดูน่าเกรงขาม

เช่นเดียวกับที่บ้านของสุริยง ก็ตกใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ไม่แพ้กัน
“จะไปอยู่สวิส ไม่มีกำหนดกลับ ไม่ได้นะ แม่ไม่ให้ไป ผู้หญิงตัวคนเดียวจะไปอยู่ได้ยังไง ไม่ได้นะ
แม่ไม่ยอม”
นภา กับอาทิตย์ นั่งคุยกับสุริยง หน้าเครียด
“แม่คะ ที่ผ่านมาหนูเล็กไม่เคยขัดใจ หรือขัดคำสั่งพ่อกับแม่เลยแม้แต่อย่างเดียว ขอให้ทำอะไร หนู
เล็กก็ทำให้ทุกอย่าง ตอนนี้เรื่องไก่กับไข่ก็ไม่มีอะไรต้องห่วง หนูเล็กขอทำตามใจตัวเองบ้างนะคะ หนูเล็กอยากจะไป
พักจริงๆ ให้หนูเล็กไปเถอะนะคะ”
นภาจะไม่ยอม อาทิตย์จับมือห้าม และหันมาตอบแทน
“ไปเถอะลูก ถ้าอยากไปก็ไป พ่อกับแม่อนุญาต”
นภาหันมามองหน้า อาทิตย์พูดต่อ
“แต่ไปแล้วก็ดูแลตัวเองดีๆ ไปพักจนพอใจเมื่อไหร่ก็กลับมา”
สุริยงยิ้มโล่งอก “ขอบคุณค่ะพ่อ”

อาทิตย์พยักหน้าอย่างเข้าใจ ในขณะที่นภายังไม่คลายความกังวลใจ แต่ก็ต้องจำยอม
เมื่ออยู่ตามลำพัง เกนหลงก็ได้แต่นั่งซึม คำพูดของเขมชาติดังก้องอยู่ในหู
“ผมยอมที่จะเดินออกไปจากชีวิตเขาเพื่อให้เขาได้ก้าวเดินไปข้างหน้าบางทีเขาอาจจะได้เจอผู้ชายที่
ดีกว่าผม ผู้ชายที่คอยดูแล เป็นห่วง และจริงใจกับเขาอย่างคุณเอื้อ คุณเอื้อเป็นห่วงและดูแลวดีด้วยความจริงใจมา
ตลอด แต่เพราะผมเข้ามา เขาถึงยอมถอย แต่ตอนนี้ผมยอมที่จะถอย เพื่อให้เขาเข้ามาได้อย่างเต็มตัว คุณเอื้อคือคน
ที่เหมาะสมที่จะอยู่เคียงข้างกับวดีมากกว่าผม”
เกนหลงนั่งคิดถึงภาพเหตุการณ์ตอนที่เกือบจะจูบกันในงานวันเกิด แต่แล้วเอื้อเองกลับเป็นฝ่าย
ชะงักคิดแล้วเกนหลงก็ใจหายวาบ หรือว่าเขมชาติจะพูดจริง
ในขณะเดียวกัน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เกนหลงรับสาย
“สวัสดีค่ะพี่อัม”

เกนหลงกับอัมพิกา นัง่คุยกันในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง สีหน้าอัมพิกายามนี้เคร่งเครียด เกนหลงก็ตกใจ
กับสิ่งที่ได้ยิน
“เกนไม่รู้เรื่องนี้เลย ไม่รู้เลยว่าพี่เอื้อกำลังจะไปสวิสกับคุณสุแบบไม่มีกำหนดกลับ”
อัมพิกาแปลกใจ
“อ้าว พี่คิดว่าเอื้อจะปรึกษาเกนซะอีก ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆเอื้อถึงได้ ทิ้งงาน ทิ้ง...”
อัมพิกายั้งคำว่าเกนหลงได้ทันท่วงที
“ครอบครัวไปกับสุริยงแค่สองคนแบบนี้ดูสิ ยัยอรก็เพิ่งไปเมกา เอื้อก็จะไปสวิส ทำไมทำไมทุกคนถึง
พร้อมใจกันไปจากพี่ ทำไม”
เกนหลงเห็นอัมพิกาเครียด ก็จับมือ ปลอบใจทั้งที่ในใจตัวเองก็แทบจะสลาย ในหัวเต็มไปด้วย
คำถามมากมาย
“พี่อัมอย่าเพิ่งคิดมากเลยนะคะ”
พูดปลอบใจอัมพิกาและปลอบใจตัวเองไปด้วย
“พี่เอื้อเป็นคนรอบคอบ มีเหตุผล ถ้าเขาตัดสินใจเลือกแล้ว แสดงว่าสิ่งนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุด และคุณสุ ก็
เป็นคนดีมาก พี่เอื้อคงจะคิดอย่างรอบคอบแล้ว”
เกนหลงยิ้มเศร้า
“โอเค พี่ยอมรับ สุริยงก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่พี่เคยคิด แต่พี่ว่าเอื้อกำลังเข้าใจผิด บางทีสิ่งดีๆมัน
อาจจะเปลี่ยนไปแล้ว มันอาจจะไม่ใช่สุริยงก็ได้”
พลางมองเหมือนจะบอกว่า คนที่ดีคือเกนหลง
“เกน ถือว่าพี่ขอร้องหล่ะ ช่วยไปพูดกับเอื้อให้พี่หน่อย ช่วยพูดให้เอื้อเปลี่ยนใจ ยกเลิกการเดินทางไป
สวิส ถ้าเขามีปัญหาอะไรในใจ เรามาช่วยกันคิดหาทางออกอื่น ที่ไม่ใช่ไปสวิสแบบไม่มีกำหนดกลับแบบนี้ ถ้าพี่พูด
เขาไม่เชื่อแน่ๆ แต่ถ้าเป็นเกน พี่ว่าเอื้อต้องฟัง”
เกนหลงส่ายหน้าเศร้าๆ
“ไม่หรอกค่ะ เกนไม่ใช่คนสำคัญสำหรับพี่เอื้อ ขนาดเขาจะไป ยังไม่บอกสักคำ ต่อให้เกนไปพูด พี่
เอื้อคงไม่สนใจฟัง”
“แต่...” อัมพิกาพยายามจะอ้อนวอน แต่เกนหลงยืนยัน
“พี่อัมคะ เกนคงจะเปลี่ยนใจพี่เอื้อไม่ได้จริงๆ แต่เกนจะทำในสิ่งที่เกนพอจะทำได้ก็แล้วกันนะคะ”
“เกนจะทำอะไร?”
เกนหลงไม่ตอบ แต่คิดถึงสุริยงขึ้นมาจับใจ

สุริยงลากกระเป๋าที่จัดของไว้เรียบร้อยเตรียมพร้อมที่จตเดินทาง และเดินมาดื่มกาแฟที่วางอยู่ พอ
ดื่มปุ๊บก็ชะงักกึก เห็นมะนาวฝานที่ลอยอยู่ในแก้ว แล้วก็คิดถึงเขมชาติแว่บเข้ามา
ทันใดนั้นชื่นก็เดินมาหา
“คุณหนูเล็กคะ มีแขกมาขอพบค่ะ”
สุริยงชะงักกึก ในใจแอบคิดว่าเป็นเขมชาติ หากแท้จริงแล้วเป็นเกนหลงยืนอยู่ที่หน้าบ้าน แววตา
ครุ่นคิด
“คุณเกนคะ”
เกนหลงหันมา มองสุริยง แล้วพูดตรงๆ
“คุณสุจะเดินทางไปสวิสกับพี่เอื้อวันพรุ่งนี้ใช่มั้ยคะ?”
“ใช่ค่ะ”
“คุณสุให้พี่เอื้อไปในฐานะอะไรคะ ? ตัวจริง ตัวสำรอง หรือว่า ตัวแทนเขม”
สุริยงอึ้ง พลางรีบอธิบาย
“คุณเกนกำลังเข้าใจผิดนะคะ สุไม่คิดจะให้คุณเอื้อมาอยู่ในฐานะอะไรทั้งนั้น”
“ไม่ได้คิด ก็ควรคิดได้แล้วนะคะ พี่เอื้อรอคำตอบจากคุณมานานแล้ว ถ้าคุณลืมเขมได้จริงๆ และ
ต้องการจะเริ่มต้นใหม่กับพี่เอื้อ คุณก็ควรจะคิดว่าเขาคือตัวจริงไม่ได้มาเพื่อแทนใคร”
พูดทั้งที่ในใจแอบเจ็บ “พี่เอื้อเป็นคนดี ควรจะได้สิ่งดีๆตอบแทน”
“สุทราบค่ะ คุณเอื้อเป็นคนดี ดีมากๆ ดีกับสุมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง ถ้ามีโอกาสสุก็อยากจะ
ตอบแทนคุณเอื้อ”
สุริยงพูดด้วยความจริงใจ เกนหลงสัมผัสได้ถึงความจริงใจนั้น เกนหลงใจหายวาบ คิดแล้วตัดสินใจ
พูด
“หัวใจของคุณสุคือสิ่งตอบแทนที่ดีที่สุดสำหรับพี่เอื้อ พี่เอื้อรักคุณนะคะ รักมาตลอด เกนไม่อยากให้พี่เอื้อผิดหวังกับการรอคอยที่ไม่มีวันสิ้นสุด”
สุริยงชะงักแปลกใจ เกนหลงพูดต่อ
“ถึงเวลาที่พี่เอื้อควรจะมีความสุข และได้อยู่กับคนที่รักเขาอย่างจริงใจ ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ คนๆ
นั้นจะคอยดูแล อยู่เคียงข้างเขาไปตลอดชีวิต เกนอยากให้พี่เอื้อมีความสุข มีรอยยิ้ม และไม่เจ็บปวดอีกต่อไป”
สุริยงมองเกนหลงที่ตอนนี้มีน้ำตาเอ่ออยู่ที่ดวงตา
“สัญญากับเกนได้มั้ยคะว่าคุณสุจะไม่ทำให้พี่เอื้อเสียใจ”
สุริยงไม่ตอบ หากย้อนถาม “คุณเกนรักคุณเอื้อใช่มั้ยคะ?”
เกนหลงอึ้ง ก่อนจะหันมาตอบนิ่งๆ
“มันไม่สำคัญหรอกค่ะ ว่าเกนคิดยังไง เพราะในใจของพี่เอื้อ มีแต่คุณสุ” เกนหลงจับมือสุริยง
“คุณฃสุคือคนที่จะทำให้พี่เอื้อมีความสุขที่สุด ดูแลเขาให้ดีนะคะ เกนขอร้อง”
เกนหลงฝากอย่างหนักแน่น จริงจัง แล้วก็ปล่อยมือสุริยง ก่อนจะเดินกลับออกไป เหมือนได้ทำในสิ่ง
ที่ต้องการแล้ว. แม้จะเศร้า แต่ก็หมดห่วง สุริยงมองตาม พลางคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเอื้อกับเกนหลง
ในขณะที่เกนหลง ก็กลับมาที่บ้าน นอนซึม พลางมองชุดเต้นรำที่แขวนอยู่ในห้องนอน มีเสียงสายเข้า
เกนหลงหันไปดูหน้าจอเห็นชื่อเอื้อ เกนหลงเบือนหน้าหนี ปล่อยให้เสียงดังจนสัญญาณตัดไปเอง เหมือนคนพยายาม
จะตัดใจ
เอื้อวางสายลงอย่างงงๆ
“เกนเป็นอะไร ? โทร.หาทั้งวัน ไม่ยอมรับสาย”

พลางเริ่มสังหรณ์ใจบางอย่าง
ทางด้านเอื้อ ก็มาหาสุริยงที่บ้าน และส่งตั๋วเครื่องบินให้
“นี่ตั๋วเครื่องบินของหนูเล็ก เครื่องออกตอนเที่ยงคืน เดี๋ยวผมมารับไปพร้อมกัน”
สุริยงรับตั๋วมา แล้วตัดสินใจพูด
“คุณเอื้อไม่ต้องไปสวิสกับหนูเล็กหรอกค่ะ คุณเอื้อไม่จำเป็นต้องเสียสละมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 27/3 วันที่ 27 เม.ย. 57

ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตี
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 27/2 วันที่ 27 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 27/2 วันที่ 27 เม.ย. 57

สุริยงนั่งมองเอกสารที่ทนายนำส่งมาให้ ถึงกับน้ำตาซึม อัมพิการีบอธิบายต่อ
“ตอนนี้ไก่ ไข่ ได้ครอบครองหุ้นตามที่คุณพ่อต้องการและระบุไว้ในมรดกเป็นที่เรียบร้อยนะ ฉันจะให้ฝ่ายบัญชีและ กฎหมายทำเรื่องสั่งจ่ายเงินปันผลย้อนหลัง

เริ่มนับตั้งแต่วันที่คุณพ่อสิ้นจนถึงปัจจุบัน และจ่ายให้อีกทุกๆเดือน นับจากนี้เป็น ต้นไป เธอก็เอาไว้ใช้จ่ายเป็นค่าเลี้ยงดูไก่กับไข่ก็แล้วกัน”
สุริยงรู้สึกตื้นตันใจจนแทบพูดไม่ออก “ขอบคุณมากค่ะ”


“ฉันนะสิที่จะต้องขอบคุณเธอ ที่ช่วยดูแลไก่ ไข่ เป็นอย่างดี ทั้งที่เด็กสองนั้นก็ไม่ใช่ลูกแท้ๆของเธอ”
“ถึงจะไม่ใช่โดยสายเลือด แต่ไก่ กับ ไข่ ก็เป็นเหมือนลูกดิฉัน ขอบคุณที่คุณอัมพิกาเมตตาเด็กทั้งสอง
คนดิฉันคิดว่า ถ้าท่านเจ้าสัวยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะมีความสุขมากที่สุด”
อัมพิกาพยักหน้าเห็นด้วยอย่างจริงใจ น้ำตาคลอๆ
“นับจากนี้ไปเป็นต้นฉันจะช่วยเธอดูแลไก่ กับ ไข่ ในฐานะของพี่สาว และเธอก็ขอให้คิดว่าฉันเป็นพี่สาวเธอคนนึงนะ”
อัมพิกายิ้มด้วยความจริงใจ และเมตตา สุริยงน้ำตาคลอซึ้งใจ
“ขอบพระคุณมากค่ะ “

สุริยงเดินออกมาพร้อมกับซองเอกสารในมือ ด้วยความรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมาก ที่ได้จัดการเรื่องมรดกของคู่แฝดไก่กับไข่เป็นที่เรียบร้อยสมความตั้งใจ แต่ก็ยังครุ่นคิดเรื่องของตัวเอง ทันใดนั้นเสียงเอื้อก็ดังขึ้น
“หนูเล็ก หนูเล็ก”
สุริยงหันไป เห็นเอื้อยืนอยู่หน้าตาเครียด สุริยงชะงัก นึกไว้ในใจว่าต้องพูดเรื่องเขมชาติแน่ๆ
“คุณเอื้อทำหน้าแบบนี้ คงไม่ได้มายินดีกับหนูเล็กเรื่องมรดกไก่กับไข่ใช่มั้ยคะ”
“เรื่องนั้นผมไม่ห่วงแล้ว เพราะพี่อัมเขาทำในสิ่งที่ควรทำไปแล้ว ตอนนี้ผมห่วงเรื่องหนูเล็กมากกว่า
ทำไมไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ ไปถึงคลินิก แล้วทำไมไม่ยอมตรวจ”
สุริยงหน้าตึง “ใครเป็นคนมาฟ้องคุณเอื้อ ?”
ทันใดนั้นเสียงเขมชาติก็ดังขึ้น
“ผมเอง”
สุริยงหันไปตามเสียง เห็นเขมชาติยืนหน้าเข้มอยู่ เอื้อมองสองคนแล้วก็ค่อยๆถอยห่างออกไป
“ยังมีหน้ามาให้ฉันเห็นอีกเหรอ คนไม่รักษาสัญญา”
“ ผมไม่รักษาสัญญา เพราะคุณผิดสัญญา”
“ ฉันไม่รักษายังไง?”
“ก็คุณไม่ยอมตรวจ”
“ฉันไม่ได้บอกว่าฉันจะไปตรวจ จำได้หรือเปล่าว่าฉันพูดว่าอะไร?”
เขมชาติอึ้ง คิดย้อนถึงคำพูดของสุริยง
“ถ้าฉันไปหาหมอ และหมอบอกว่าไม่ท้อง คุณจะออกไปจากชีวิตฉันหรือเปล่า”
เขมชาติอึ้งหนักกว่าเดิม สุริยงถามย้อน
“แล้ววันนี้ฉันไปหาหมอหรือเปล่า ?”
เขมชาติเสียงอ่อย “ไป”
“แล้วหมอบอกคุณหรือเปล่าว่าฉันไม่ได้ท้อง”
“บอก”
“นั่นไงเป็นไปตามคำสัญญาทุกอย่าง เพราะฉะนั้น.คุณต้องออกไปจากชีวิตฉัน”
เขมชาติอึ้งๆ สุริยงจ้องหน้าแบบไม่ยอมแพ้ ในขณะที่เอื้อแอบฟังอยู่อีกมุมหนึ่ง พลางครุ่นคิดตาม
“แต่คุณไม่ได้ตรวจ และคุณก็ไม่ได้มีประจำเดือน คุณแค่หลอกหมอ มุกตื้นๆแบบนั้น ทำไมผมจะไม่
รู้”
เขมชาติไม่ยอมลดละ
“รู้แล้วไง จะหาข้ออ้างไม่ทำตามสัญญาหรือไงหะ?”
“ก็คุณเจ้าเล่ห์ คุณหลอกผม หลอกให้ผมสัญญา คุณวางแผนไว้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นผมขอยกเลิก
สัญญา ถือว่าทุกอย่างเป็นโมฆะ”
คำพูดของเขมชาติเข้าทางสุริยงอย่างจัง
“แล้วทีคุณหลอกฉัน วางแผนทุกอย่างตั้งแต่ประเทศไทย ยันสวิส ฉันจะขอยกเลิกอะไรได้บ้าง ฉันจะ
เรียกอะไรคืนมาได้บ้าง หะ? ตอบมาสิ”
เขมชาติอึ้ง สุริยงเอื้อมมือไปผลักไหล่
“ตอบมา ฉันจะถือว่าทุกอย่างเป็นโมฆะ และขอสิ่งที่ฉันเสียไปคืนมาได้มั้ย ?”
สุริยงกัดฟันกรอด ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ ทั้งแค้น
“อย่าเอาคำว่าโดนหลอกมาเป็นข้ออ้างในการไม่ทำตามสัญญา เพราะฉันเคยโดนคุณหลอกมา
มากกว่านี้ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่า คุณเป็นคนรักษาคำพูด ทำตามสัญญา อย่ามาให้ฉันเห็นหน้า
อีก”

พูดจบ สุริยงก็หันหลังไปอย่างเย็นชา เขมชาติผวายื่นมือออกไปจะเข้าไปห้าม แต่คำพูดของสุริยง
และคำสัญญาที่ตัวเองพูดไว้ รั้งไม่ให้ตามไป
“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่า คุณเป็นคนรักษาคำพูด”
เขมชาติค่อยๆลดมือลง ยืนอึ้งเหมือนคนหมดแรง และจำยอมต้องปล่อยให้สุริยงเดินจากไป
สุริยงเดินมาตามทาง มุ่งหน้าออกจากบ้านรัตนชาติ ทันใดนั้นมีมือหนึ่งยื่นมาจับแขนไว้ สุริยงหันมา
“จะกลับบ้านใช่มั้ย? เดี๋ยวผมไปส่ง”
สุริยงโล่งอก ที่ไม่ใช่เขมชาติ หากเป็นเอื้อ จากนั้นเอื้อก็พาสุริยงขึ้นไป แล้วขับออกจากบ้านไป
เขมชาติมองเอื้อกับสุริยงจากไปแล้วก็สะท้อนใจ พลางเริ่มจะถอดใจ

สุริยงนิ่งเงียบอยู่ในรถเอื้อ แล้วก็ตัดสินใจอะไรบางอย่าง
“หนูเล็กจะไปอยู่สวิสแบบไม่มีกำหนดกลับ”
เอื้อถามด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินเจตนาของสุริยง ระหว่างที่นั่งคุยกันในสวนหน้าบ้านสุริยง
“หนูเล็กอยากจะพัก พักให้หายเหนื่อย ไม่รู้เมื่อไหร่จะหาย ก็เลยยังไม่อยากคิดเวลากลับ”
“จะไปกับใคร?”
“ไปคนเดียวค่ะ” สุริยงย้ำหนักแน่น
“ไม่จริง หนูเล็กจะไปกับลูกใช่มั้ย ? ลูกในท้อง”
สุริยงหันมามองหน้าเอื้อ ไม่ตอบ แต่แววตา ไม่ปฎิเสธ
“คุณโกหกเขมชาติไม่ได้ คุณก็โกหกผมไม่ได้เหมือนกัน ที่หนูเล็กจะไป เพราะตั้งใจจะแอบไปคลอด
ลูก และเลี้ยงลูกคนเดียว ไม่อยากให้เขมชาติรู้เรื่องลูกใช่หรือเปล่า?”
สุริยงเงียบ เอื้อคาดคั้น
“ถ้าไม่ตอบ ผมจะไม่ยอมรับสิทธิ์ในการดูแลไก่กับไข่”
สุริยงตัดสินใจตอบตามตรง “ คนอย่างเขมชาติ ทำได้ทุกอย่าง เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการ ตอนนี้เขา
ไม่เหลือใคร เขาถึงต้องการลูก ที่เขาพยายามทำดีทุกอย่าง ทำเป็นยอม ทำเป็นห่วงใย มันไม่จริง มันก็เป็นแค่ละคร
ที่ทำให้เราตายใจ เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ก็ถีบเรากลับสู่ความเป็นจริง เมื่อไหร่ที่เขาได้ลูกไป เขาก็จะกลับมาเป็น
เขมชาติคนเดิม หนูเล็กเคยหลงไปกับภาพมายาที่เขาสร้างขึ้นมาครั้งนึงแล้ว จะไม่ยอมหลงเชื่ออีกเป็นครั้งที่สอง”
เอื้อฟังแล้วก็เข้าใจ เห็นใจ ก่อนจะถามย้ำอีกที
“หนูเล็กคิดว่า การไปสวิสมันจะแก้ปัญหาได้จริงๆเหรอ?”
“ถึงไม่ได้ หนูเล็กก็จะไป ไปตายเอาดาบหน้ายังจะดีซะกว่า ไม่อยากอยู่ให้เขามาสร้างความวุ่นวาย
มากไปกว่านี้”
เมื่อเห็นว่าสุริยงยืนยันหนักแน่น เอื้อก็ตัดสินใจ
“ถ้ายืนยันว่าจะไป ผมไปด้วย ผมจะให้เลขารีบหาตั๋วเครื่องบินให้ก็แล้วกัน หนูเล็กพร้อมไปเมื่อไหร่
ก็บอก”
สุริยงสูดลมหายใจลึกๆ แล้วรีบตอบทันที
“พร้อมค่ะ หนูเล็กพร้อมไปตั้งแต่ตอนนี้ และอยากไปให้เร็วที่สุด”
เอื้อมองหน้าสุริยงอีกที เห็นแววมุ่งมั่น ก็พยักหน้า ทว่าในใจยังคงครุ่นคิด ด้วยไม่แน่ใจกับการ
ตัดสินใจครั้งนี้เท่าไรนัก

ทางด้านเขมชาติ ก็กำลังนั่งเศร้าอยู่ที่มุมหนึ่งในสวนบ้านเกนหลง เกนหลงเดินมา และนั่งลงข้างๆ
“เกนทราบเรื่องระหว่างคุณกับคุณสุแล้วนะคะ กลุ้มใจ นอนไม่หลับหล่ะสิ ถึงได้มาแต่เช้า”
“ผมขอโทษ จริงๆผมไม่ควรจะมาที่นี่อีก แต่ผมไม่รู้จะไประบายกับใครจริงๆ”
เกนหลงยิ้มให้เขมชาติอย่างจริงใจ
“ไม่เห็นต้องขอโทษเลย เกนบอกแล้วไงว่าเราเป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องคิดมาก”
เขมชาติใจชื้น
“ขอบคุณครับ ขอบคุณมาก”
เกนหลงถามต่อ
“แล้วจะทำยังไงต่อ ? ตอนนี้คุณสุเขายื่นคำขาดไม่ให้ไปเจอ เขมทำได้หรือเปล่า?”
“ไม่ได้ ก็ต้องได้ เพื่อความปลอดภัยของวดีกับลูก ผมรู้ที่เขาไม่ยอมรับเรื่องท้อง เพราะไม่ไว้ใจผม
และถ้าผมยังขืนดื้อดึง ตามตื๊อ เอาชนะเขาต่อไป สุดท้ายคนที่จะได้รับอันตรายที่สุดก็คือลูก มันคงถึงเวลาที่ผมจะต้อง
หยุด และยอมรับในการตัดสินใจของวดี”
เกนหลงมองด้วยความเห็นใจ เขมชาติระบายต่อ
“ผมมาลองคิดดู ผมเห็นแก่ตัวมาตลอด ผมทำทุกอย่างก็เพื่อตัวเอง แม้แต่การที่ผมพยายามตามง้อ
วดี ก็เพื่อทำให้เขายอมยกโทษ ผมจะได้มีความสุขที่ได้อยู่กับเขา อยู่กับลูก ทั้งๆทีเขาอาจจะไม่ได้อยากอยู่กับผมเลย”
เกนหลงฟังแล้วก็พูดไม่ออก เขมชาติตัดสินใจ
“ผมตัดสินใจแล้ว นับจากนี้ไป ผมจะทำตามความต้องการของวดี หยุดที่จะตามตื๊อ สร้างความไม่
สบายใจให้กับเขา ผมยอมที่จะเดินออกไปจากชีวิตเขา เพื่อให้เขาได้ก้าวเดินไปข้างหน้า บางทีเขาอาจจะได้เจอผู้ชาย
ที่ดีกว่าผม ผู้ชายที่คอยดูแล เป็นห่วง และจริงใจกับเขา อย่างคุณเอื้อ”
เกนหลงชะงักกึก ใจหายวาบ “พี่เอื้อ?”
“ใช่ คุณเอื้อเป็นห่วงและดูแลวดีด้วยความจริงใจมาตลอด แต่เพราะผมเข้ามา เขาถึงยอมถอย แต่
ตอนนี้ผมยอมที่จะถอย เพื่อให้เขาเข้ามาได้อย่างเต็มตัว คุณเอื้อคือคนที่เหมาะสมที่จะอยู่เคียงข้างกับวดีมากกว่าผม”
เขมชาติพูดระบายตามความรู้สึก แต่หารู้ไม่ว่าคนฟังจิตใจร้อนรนวูบวาบ
เกนหลงนั่งอึ้ง เครียดขึ้นมาทันทีเอื้อคิดแบบนั้นจริงเหรอ?

กระเป๋าเดินทางหรู ถูกยกมาวางเรียงที่หน้าบ้าน อรทัยเดินมา และเตรียมตัวจะออกไป อัมพิการีบ
เดินมาถาม
“อร จะไปไหน? แล้วขนอะไรไปเยอะแยะ”
“อรจะไปอยู่เมกาสักพักค่ะ”
“สักพักนานแค่ไหน?”
“ไม่มีกำหนดกลับ” น้ำเสียงของอรทัยบ่งบอกว่าไม่ได้กำลังพูดเล่น
“หะ? ไม่มีกำหนดกลับ นี่เราจะทิ้งพี่ ทิ้งงาน ทิ้งทุกอย่างไปง่ายๆอย่างนี้เหรอ”

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 27/2 วันที่ 27 เม.ย. 57

ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตี
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3