อ่านละครเรื่อง ทองเนื้อเก้า วันที่ 14 พ.ย. 56

อ่านละครเรื่อง ทองเนื้อเก้า วันที่ 14 พ.ย. 56

"นิมนต์ด้วยค่ะหลวงพี่"
พระหยุดคอยที่หน้าบ้าน ก้มหน้าอย่างสงบเคร่งครัด สมฤดีพาวิมลออกมา ตักบาตรจนเสร็จ
พระให้พร
"หนูสมเขากำลังจะไปเรียนต่อที่อเมริกานะคะท่าน"
"ไปเข้ามหาวิทยาลัยที่โน่นหรือไงโยม"

"ค่ะ หลวงพี่ ดิฉันจะไปอยู่กับคุณพ่อ ท่านได้ทุนวิจัยไปค้นคว้างานอยู่ที่โน่นหลายปีแล้วค่ะ"
"อีกหลายปีสินะ กว่าจะได้กลับเมืองไทย หรือว่าโยมตั้งใจจะตั้งรกรากที่โน่นเลย"


"ไม่หรอกค่ะหลวงพี่ เรียนจบดิฉันก็จะกลับบ้าน บ้านดิฉันคือเมืองไทยค่ะ"
พระพยักหน้ารับรู้นิ่งๆแล้วเดินต่อไป
ผ่านเวลาไปนานเกือบ 15 ปี เย็นวันนี้จะมีงานวัด ชาวบ้านเดินเข้ามาในศาลาใหญ่ พระวันเฉลิมในวัย 25 ปีนั่งบนธรรมมาสน์ ชาวบ้านใบหน้ายิ้มแย้มต่างนั่งพนมมือตั้งใจฟังเทศน์มหาชาติ
ผ่านเวลาหลังพระเทศน์จบ ชาวบ้านต่างแยกย้ายกลับไป วิมลขยับเข้ามาถวายสังฆทาน
"หลวงตาท่านเป็นยังไงบ้างเจ้าค่ะท่าน"
"ท่านเดินไม่ไหวแล้ว โยมคุณยาย ต้องกระถดเอา จะเข้าห้องน้ำก็ต้องช่วยกันประคองแต่สุขภาพทางอื่นท่านไม่มีปัญหาอะไร สายตากับความจำท่านดีมากครับ"
"นับว่าท่านมีบุญนะเจ้าคะ"
"หลวงตาท่านพูดเสมอว่าท่านไม่ต้องการเป็นภาระของใครครับ"
"สาธุ ขอให้ท่านแข็งแรงอยู่ไปนาน ๆ จะได้เป็นที่พึ่งของเด็ก ๆ แถวนี้นะเจ้าคะ"
"นี่คุณโยมสมฤดียังไม่กลับจากอเมริกาเหรอครับ"
"เจ้าค่ะ นี่ก็ใกล้จะเรียนจบแล้ว หนูสมเธอบอกว่ากลับมาอยากเป็นอาจารย์"
พระยิ้มน้อยๆภาคภูมิใจในสิ่งที่สมฤดีคิดช่วยเหลือสังคม

ยายแล ผมขาว กินหมาก ฟันดำ สภาพแก่มาก เดินหลังค่อมผ่านชีวิตที่เหนื่อยล้ากำลังถูพื้น เก็บของที่ครัวอย่างตั้งอกตั้งใจ พระวันเฉลิมเดินเข้ามา มองยายอย่างพอใจ
"เหนื่อยก็พักบ้างเถอะโยมยาย"
ยายแลหันมา ยกมือไหว้พระ
"อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว ไม่เหนื่อยหรอกเจ้าค่ะ"
"หักโหมเกินไปก็ไม่ดีต่อสุขภาพนะครับโยมยาย"
"ทั้งชีวิตที่ผ่านมา อิฉันปล่อยเวลาให้มันผ่านไปอย่างไม่มีประโยชน์อะไรเลย อิฉันอยากจะชดเชยเวลาที่หายไปเจ้าค่ะ จะให้ไปนั่งภาวนาอย่างคนอื่นเขาอิฉันคงไม่มีปัญญา"
"การทำงานทุกอย่างอย่างมีสติ ก็เท่ากับได้ฝึกปฏิบัติธรรมแล้วละโยมยาย"
"สาธุ .ตะก่อนมาวัด อิฉันแค่มาบนบาลศาลกล่าวขอให้ตัวเองถูกหวยรวยเบอร์ แต่ตอนนี้อิฉันรู้แล้วว่า อิฉันต้องการอะไร อย่างที่ท่านสอนน่ะแหละเจ้าค่ะ บุญก็ส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป ไม่มีทางหักกลบลบหนี้กันได้ แต่เวลาที่เหลือน้อยนิดของอิฉัน อิฉันขออุทิศให้พระศาสนาเจ้าค่ะ"
"อนุโมทนา โยมยาย"
สันต์, เทวีเดินเข้ามา ไหว้แล และไหว้พระ
"ใกล้สอบแล้วใช่ไหมครับท่าน"
"ครับ จบมหาจุฬาแล้ว ถ้าไม่มีอะไรให้ห่วง ผมกะว่าจะไปเรียนต่อทีอินเดีย"
"สาธุ" เทวีบอก
"ผมอยากรู้อยากเห็นให้แน่ใจ หลวงพี่อาจารย์ภาษาอังกฤษผมท่านแนะนำว่า ถ้าผมได้อยู่อินเดียสักปีสองปีผมจะรู้ซึ้งแก่นของพระศาสนา ผมจะได้รู้แน่แก่ใจว่า ทำไมพระพุทธองค์จึงตรัสรู้ที่นั้น และนรกที่ผมเคยอยู่ที่ห้องแถวนั้น ที่แท้ยังไม่ใช่นรกแต่เป็นโลกธรรมดา ๆ บนแดนดิน แม้จะไม่เคยเห็นสวรรค์แต่ชีวิตเป็นสุขของผมเมื่อเล็ก ๆ ที่แท้แล้วเป็นสวรรค์ชั้นฟ้าไม่มีความทุกข์ทรมานอะไรจะมาแผ้วพานผมได้อีก ไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่ผมจะเรียนรู้ได้เท่าที่นั่น"
"พ่อขออนุโมทนากับท่านด้วย"
กิจการเรือนปั้นขยายใหญ่ ปั้นวางมือปล่อยให้ ลำยงค้าขาย ลูกค้าผลัดกันแวะมาซื้อของ ลำดวน กับ ชุดวิ่งวุ่น ลำดวนยังขี้บ่นเหมือนเดิม และโวยวายมาก ไม่ต่างจากยายแลในอดีต
อ้อยที่เป็นสาวเต็มที่โผล่หน้าออกมาว๊อบแว๊บหลบๆซ่อนๆเขินอาย ปั้น คุยกับพระวันเฉลิมอยู่
"มันก็พอช่วยงานเล็กๆน้อยๆได้เจ้าค่ะ หยิบของขายลูกค้า คิดเงิน ทอนเงินน้อยๆพอได้อยู่ แต่เลขหลักสิบน่ะไม่แน่ใจหรอกเจ้าค่ะ คิดผิดทุกที"
ลำยงเดินออกมาพอดี เห็นอ้อยทำคิกคัก ลับๆล่อๆ
"มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้วะนังอ้อย"
"หล่อจังเลย หล่อๆๆ หล่อจริงๆ"
"อะไรของเอ็ง"
อ้อยปิดเขินไปทั้งตัว ลำยงมองตามสายตาอ้อย จึงได้เห็นพระ
"ปัดโธ่อีนังคนนี้ ไปกราบพระหลวงพี่ท่านรึยัง"
อ้อยยิ้มหน้าแดง ส่ายหน้า ลำยงลากแขนอ้อยออกมาไหว้พระ อ้อยหลบหลังลำยง แต่อารมณ์บนหน้าเก็บไม่มิด
"โยมน้องอ้อย"
อ้อยสะดุ้งหัวใจลิงโลด
"จ๋า"
"อยู่ที่นี่ช่วยโยมน้าขายของนะ"
"จ้ะ"
พระอุ้มบาตรเดินจากไป อ้อยยั้งอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
"เอ็งเป็นอะไร นังอ้อย" ปั้นถาม
อ้อยกุมนมข้างซ้าย
"ในนี้มันเต้น มันเต้นแร๊งแรง"
ปั้นแปลกใจ
"มันยังไงของมันวะ นังคนนี้"
"สงสัยมันแน่นอก" ลำดวนบอก
"ต้องยกออก นั่นด้วย ยกออกมาเลย" ชุดบอก
ชุดไม่ได้คุยกับลำดวน แต่บอกลูกค้าให้ยกถังออกมาเลย

บนกุฏิ เด็กๆ 5-6 คนนั่งฟังนิทานชาดกจากหลวงตาปิ่นกันอย่างตั้งอกตั้งใจ นิทานเรื่องพญาช้างเผือกเลี้ยงแม่จบลง
"นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความกตัญญูต่อพ่อแม่ นำความสุขความเจริญและเป็นเกราะป้องกันภัยให้เราได้เสมอ"
เด็กๆ บอก
"เอาอีก หลวงตาเล่าอีก"
เหน่งเดินเข้ามาบอก
"พอแล้ว วันนี้หลวงตาเหนื่อยแล้ว วันหลังค่อยมาฟังต่อ ไปช่วยกันเก็บขยะรอบๆวัดก่อนไป" เด็กๆพากันออกไป หลวงตาปิ่นเหยียดขาด้วยความปวดเมื่อย
"หลวงตาพักบ้างเถอะครับ เดี๋ยวก็ไม่สบายไปอีก นิทงนิทานไม่ต้องเล่าแล้ว เหนื่อยเปล่าๆ"
"ไอ้เหน่ง เอ็งมาบังคับหลวงตายังงี้ ก็เท่ากับบังคับไม่ให้หลวงตาหายใจนั่นแหละ"
"ผมไม่ได้พูดยังนั้นซะหน่อย หลวงตา"
"เอ็งฟังให้ดีๆ ในเมื่อหลวงตายังทำประโยชน์ได้ หลวงตาก็จะทำต่อไป เอ็งจะมาบังคับให้หลวงตานั่งๆ นอนๆ เหมือนผักหญ้าหมาหมูไม่ได้หรอกโว้ย"
"นิทานหลวงตา เด็กพวกนั้นมันฟังรู้เรื่องรึเปล่าก็ไม่รู้"
"ไม่รู้เรื่องแล้วมันจะนั่งฟังกันจนจบเหรอวะ"
พระวันเฉลิมบอก
"เหน่ง ยังไงก็ยังดีกว่าปล่อยให้ไปวิ่งเล่นมั่วสุมกันเล่นการพนัน ทอยกอง ล้อต๊อกมันไม่ดีหรอก อย่างน้อย นิทานของหลวงตาก็ช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้ดีขึ้นนะ"
หลวงตาปิ่นบอก
"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก จะสร้างคนให้เป็นคนเต็มคน มันก็ต้องสร้างกันตั้งแต่เป็นเด็กๆนี่แหละ เดี๋ยวนี้คนเป็นพ่อแม่มันมีเวลาอบรมกันซะที่ไหน อ้างแต่ต้องทำมาหากิน ขอบใจเอ็งที่เป็นห่วงหลวงตา แต่ให้อยู่ว่างๆ เฉยๆ มันรำคาญว่ะ จะนอนอะไรนักหนา นอนทุกคืนมาชั่วชีวิตแล้ว อีกไม่นานก็จะนอนตลอดกาล แล้วจะรีบร้อนพักผ่อนไปทำไม ยังไงๆ ก็ได้นอนไม่ตื่นฟื้นไม่มี กันทุกคนแหละน่า"
เหน่งออกจะใจเสีย ที่หลวงตามามุขนี้ พระวันเฉลิมเข้าใจหลวงตาดี

ชุดขูดมะพร้าวมือเป็นระวิง ลำดวนฉีกใบตองเตรียมใช้ห่อข้าวต้มมัด ลำยงเตรียมกล้วยน้ำว้า อ้อยทำลับๆล่อๆ แกะไข่เค็มสุก กินไข่แดงอย่างเอร็ดอร่อย
"นังอ้อย" ลำดวนเรียกเสียงดัง
อ้อยสะดุ้งสุดตัว ไข่เค็มหลุดมือร่วงลงพื้น แต่ไข่แดงคาเต็มปาก
"เอาอีกแล้วนะเอ็ง ขโมยกินไข่เค็มอีกแล้ว มันอร่อยนักหนารึไงวะนังอ้อย ของซื้อของขายนะโว้ย ทุนหายกำไรหดหมด"
"ช่างหัวมันเหอะ ฟองสองฟองจะเป็นไรไป" ลำยงบอก
"มันควักกินแต่ไข่แดง ไข่ขาวมันทิ้ง เสียของน่ะสิ"
"ไข่แดงอร่อย ไข่ขาวไม่อร่อย"
"ทำงานให้มันคุ้มกับที่กินหน่อยโว้ยนังอ้อย มาช่วยฉีกใบตองนี่" ลำดวนบอก
อ้อยขยับมานั่งเผละลงข้างลำดวน แหกแข้งขา เห็นไปถึงไหนต่อไหน
"เฮ้ยๆ นั่งให้มันดีๆ เห็นไปถึงไส้ถึงพุงหมดแล้ว"
อ้อยกระพือผ้าถุง
"ก็มันร้อน"
"ไปอยู่โรงเรียนตั้งหลายปี เขาไม่ได้สอนมันเรื่องนี้รึไงวะ" ชุดถาม
"แล้วคืนนี้ใครจะไปขายกะเอ็งลำดวน สองทุ่มข้าก็ต้องเข้านอนแล้วนะ ไม่งั้นพรุ่งนี้ตื่นสายแหงๆ"
"ก็ต้องเอานังอ้อยไปช่วยแหละ ไปรึเปล่านังอ้อย งานวัดคืนนี้"
อ้อยตอบแบบไม่ต้องคิดเลย
"ไปๆๆไปงานวัด"

ผ่านเวลาเย็นใกล้ค่ำ มัคทายกวัดรายงานพระ
"ชาวบ้านดีใจมีงาน ต่างมีความสุข ตั้งแต่ท่านจบเปรียญ ชาวบ้านต่างพากันเข้าวัดทำบุญมากขึ้น นี่ก็พากันดีใจที่จะมีงานวัด 7 วัน 7 คืน"
พระวันเฉลิมบอก
"การทำอะไรให้คนมีความสุข ก็ส่งผลมาถึงตัวเรานะโยม"
พระพูดจบเดินไปทางโบสถ์

เวลากลางคืน คนเดินเที่ยวงานวัดมากมาย ลำดวนแหกปากขายข้าวต้มมัด อ้อยตื่นตาตื่นใจ ผู้คนละลานตาไปหมด
"หล่อจัง คนนั้นก็หล่อ คนโน้นก็หล่อ"
"นังอ้อย หยิบถุงมา...นังอ้อย"
อ้อยมัวแต่ชะเง้อมองตามคนหล่อ ลำดวนรำคาญ จัดแจงหยิบถุงเอง ขายของลูกค้าจนเสร็จ
"ตื่นคนรึไงมึง หูตึงไปเลย"
อ้อยยิ้มท่าทางมีความสุข
"มาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย จะไปไหนก็ไปไป"

อ่านละครเรื่อง ทองเนื้อเก้า วันที่ 14 พ.ย. 56

ละครทองเนื้อเก้า บทประพันธ์โดย : โบตั๋น
ละครทองเนื้อเก้า บทโทรทัศน์โดย : ยิ่งยศ ปัญญา
ละครทองเนื้อเก้า กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครทองเนื้อเก้า ผลิตโดย : บริษัท แอค-อาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด
ละครทองเนื้อเก้า ควบคุมการผลิตโดย : ธัญญา โสภณ
ละครทองเนื้อเก้า ละครแนว : ดราม่าเข้มข้น
ละครทองเนื้อเก้า ออกอากาศทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา เดลินิวส์