อ่านละครเรื่อง ทองเนื้อเก้า วันที่ 5/2 พ.ย. 56

อ่านละครเรื่อง ทองเนื้อเก้า วันที่ 5/2 พ.ย. 56

"ไม่ ต้องปรึกษา เอามาเดี๋ยวนี้เลยได้ยิ่งดี นังลำยองมันจนตรอกขนาดนี้แล้ว ถ้ามันยังดึงดัน เห็นไอ้วันเป็นสมบัติของมันอยู่อีก มันก็ไม่ใช่คนแล้ว"
"ฉันจะรีบไปดูมันเดี๋ยวนี้เลยนะ"
"เออๆ ให้มันขนข้าวของมาวันนี้เลยก็ได้"
สินออกไปทันที ปั้นนึกบางอย่างขึ้นมาได้ รีบตามออกไป

ปั้นรีบตามสินขึ้นมาบนถนนในซอย
"ตาสิน...ตาสิน... เอาไอ้วันมาคนเดียวนะ น้องๆมันทั้งฝูงนั่นน่ะ ไม่เอา"


สินพยักหน้าอือออ
ยายแลมาจากบ้านลำยองเดินผ่านมาพอดี ปั้นหันไปเห็นพอดี
"ยังไงล่ะมึง อีลูกสาวตัวดีของมึงน่ะ เหม็นเน่าโฉ่ไปทั้งซอยอีกแล้ว"
ยายแลเครียดเป็นทุนอยู่แล้ว
"มึงจะทับถมกันไปถึงไหนอีปั้น"
"ก็ไม่ใช่เพราะมึงรึไง ถึงต้องพาลเดือดร้อนกันไปหมดยังงี้"
"กูยิ่งเครียดๆอยู่นะอีปั้น มึงจะมาฟื้นฝอยหาตะเข็บทำหอยอะไร"
"อย่างมึงเครียดเป็นกะเขาด้วยเหรอ มึงเลี้ยงลูกมึงไม่ดี ส่งเสริมแต่สันดานมักง่าย หลานกูต้องลำบากก็เพราะมึง"
"แล้วมึงคิดว่ากูไม่เดือดร้อน ไม่เจ็บรึไงอีปั้น มึงคิดว่าหัวอกคนเป็นแม่คน มึงเข้าใจอยู่คนเดียวรึไง"
"พอเถอะแม่แล แม่ปั้น ฉันขอล่ะ มาทะเลาะกันตอนนี้มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก ที่แล้วก็ให้มันแล้วไปเถอะ มาปรึกษาหารือกันเรื่องวันข้างหน้าไม่ดีกว่าเรอะ"
"แกก็บอกมันละกันตาสิน ว่าเราจะเอาไอ้วันมันมาอยู่กะเราที่นี่"
"บอกเมียแกไปด้วยตาสิน ว่าจะเอายังไงก็เอากันสิวะ"
"บอกมันไปด้วยเลย ว่าเราเลี้ยงแต่ไอ้วันคนเดียว ไอ้ที่ยั้วเยี้ยๆอีกสามน่ะไม่เอา"
"บอกอีเมียปากตะไกรแกด้วยว่าอีอ้อย ไอ้เหน่ง อีจิตรา หลานกู กูเลี้ยงของกูได้"
"บอกมันไปเลยตาสิน พูดอะไรออกมาแล้วอย่าคืนคำ"
"บอกมันด้วยว่าคนอย่างอีแล พูดคำไหนแล้วเป็นคำนั้นโว้ย"
สินปวดหัวกะโหลกที่ต้องเป็นคนกลางอย่างไม่มีความหมาย

เวลาเย็นต่อเนื่องมา วันเฉลิมป้อนข้าวต้มน้อง ๆ ทีละคนจนครบคนละคำแล้วตัวเองถึงตักกินคำนึง สินเข้ามาตะโกนเรียก
"ไอ้วันเอ๊ย...ไอ้วัน"
"ครับปู่"
"เอ็งเก็บข้าวของรึยัง"
"ยังครับ ผมว่าจะเริ่มเก็บคืนนี้ของมีไม่มากเก็บไม่นานก็เสร็จครับ"
"เออ...ข้าวของบางอย่าง เดี๋ยวปู่ช่วยขนเอาไปให้ก่อนก็ได้"
"ขนไปไหนครับ"
"ก็บ้านปู่ไง ย่าเอ็งเขาเตรียมที่ทางห้องหับเอาไว้ให้แล้ว ก็ห้องที่พ่อเองเคยอยู่น่ะแหละ"
"แล้วน้อง ๆ ผมล่ะครับ"
"ก็ให้มันไปอยู่บ้านยายมันนะสิ"
"ผมทำยังงั้นไม่ได้หรอกครับปู่ จะให้ผมทิ้งน้อง ๆ ได้ยังไง"
"ใครบอกว่าเอ็งทิ้ง"

"น้องผมอยู่ที่ไหน ผมก็ต้องอยู่ที่นั้นครับปู่"
เวลากลางคืน ฝนตกปรอย ๆ วันเฉลิมชะเง้อมองผ่านหน้าต่าง ดึกแล้ว แม่ยังไม่กลับมาซะที
อ้อย, เหน่ง, จิตรา, นอนหลับกันหมดแล้ว วันเฉลิมตัดสินใจจะไปตามหาแม่
วันเฉลิมเดินฝ่าสายฝน มองหาแม่ไปตามรายทาง วันเฉลิมตะโกนเรียก
"แม่ครับ แม่ แม่ครับ"
รองเท้าลำยองตกอยู่ข้างหนึ่งใกล้กองขยะ วันเฉลิมจำได้ เก็บขึ้นมาและมองหา ลำยองเมาหมดสติอยู่ข้างทางลึกเข้าไปโผล่ออกมาแต่ขา วันเฉลิมรีบวิ่งเข้าไป
"แม่...แม่ครับ"
ลำยองเปียกฝนไปทั้งตัว อ้อแอ้พูดไม่เป็นภาษา แต่มือยังกอดขวดเหล้าเอาไว้แน่น วันเฉลิมพยายามฉุดดึงแม่ให้ลุกขึ้นอย่างยากเย็น

วันเฉลิมเอาผ้ามาเช็ดตัวที่เปียกปอนให้แม่ ลำยองปัดป้องอย่างรำคาญ
"อย่ามายุ่งกับกู"
"วันจะเช็ดตัวให้แม่ เดี๋ยวแม่ไม่สบายครับ"
"มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร กูเป็นนางฟ้านะมึง กูอยู่บนสวรรค์ ต้องลงมาตามหาเทพบุตร"
ลำยองหัวเราะแล้วพล่ามต่อ
"แต่ละองค์งาม ๆ ทั้งนั้นเลย...เดี๋ยวกูต้องกลับวิมานของกูแล้วนะ"
ลำยองสะบัดเตะถีบจนวันเฉลิมหัวทิ่มหัวตำ แต่วันวันเฉลิมก็ไม่ย่อท้อเช็ดตัวให้ลำยองไม่หยุดยั้ง

ในเวลาเดียวกัน ปั้นนั่งกอดเข่าเครียด
"ทำไมมันไม่รู้จักเห็นแก่ตัวเสียบ้าง มันจะยอมแบกรับภาระไม่เข้าท่ายังงี้ไปอีกนานเท่าไร"
"ไอ้วันมันเกิดมาเพื่อโอบอุ้มประคับประคองคนอื่นนะแม่ปั้น"
"แล้วมันไม่คิดถึงวันข้างหน้าของตัวมันเองบ้างเลยรึไง"
"เราอาจจะมองว่ามันมีความทุกข์ แต่ใครจะรู้..แม่ปั้น มันอาจมีความสุขที่ได้ทำอย่างนี้ก็ได้"
ปั้นถอนใจทิ้งเวลาชั่วขณะแล้วตัดสินใจ
"ฉันยอมแล้วตาสิน ให้มันเอาน้อง ๆ มันทั้งฝูงนั่นน่ะ มาอยู่กะมันที่นี่ก็ได้ น้อง ๆ มันอย่างเดียวนะ แม่มันฉันไม่เอา"
"นังลำยองมันก็คงไปอยู่บ้านแม่มันน่ะแหละ ไม่มาอยู่นี่หรอก...ขอบใจนะแม่ปั้น"
"มาขอบใจฉันเรื่องอะไรย่ะ"
"ขอบใจที่แม่ปั้นยอมลดทิฐิลงได้น่ะสิ เด็กยังไงมันก็เด็ก มันบริสุทธิ์ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรหรอก...เมตตาน่ะเป็นบุญนะ"
"ฉันไม่ใช้คนใจไม้ไส้ระกำซะหน่อย"
ปั้นสะบัดงอนพองามเพราะลึก ๆ ยังต้องทำใจเลี้ยงเด็กอีกโขยงที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไข

วันใหม่ เวลากลางวัน ลำยองนอนแผ่กลางบ้าน ไม่อยากตื่น อ้อยคลานเล่นยั้วเยี้ยจิกหัวกันไปมารอบตัวลำยอง จิตรานอนร้องงอแง วันเฉลิมรวบรวมเสื้อผ้าของทุกคนใส่รวม ๆ กัน บนผ้าปูที่นอนแล้วมัดเป็นห่อใหญ่ ๆ ได้หลายห่อ
วันเฉลิมเข้ามาเขย่าตัวลำยอง
"แม่ครับ แม่ครับ...เดี๋ยววันมานะครับ"
ลำยองพลิกตัวไม่รับรู้อะไร
"น้องอ้อย น้องเหน่ง อย่าซนนะ อย่ากวนแม่ เดี๋ยวพี่วันมา...เข้าใจไหม"
วันเฉลิมลุกออกไป

สินหิ้วถังน้ำไม้กวาดอุปกรณ์ทำความสะอาดลงมาจากข้างบนพอดี
"ตาสิน...มุ้งหลังนี้มันเก่าหน่อย แต่ยังไม่ขาดเดี๋ยวเอาลงซักในคลองซะเลยดีไหม จะได้เอาไว้ให้น้อง ๆ ไอ้วันมันใช้"
"ดี ๆ ๆ เดี๋ยวฉันซักให้เองแม่ปั้น"
"ไม่เป็นไรฉันซักเอง"
"มุ้งมันลงน้ำแล้วมันหนักนา แม่ปั้นไม่ไหวหรอก มา ๆ ๆ"
สินดึงมุ้งมาจากปั้น วันเฉลิมยืนอยู่ ได้เห็น ได้ยินที่ปู่ย่าคุยกัน ปั้นหันมาเห็น
"อ้าว...ไอ้วัน มาแล้วเหรอลูก"
"เอ็งขนข้าวของมาด้วยรึเปล่าล่ะ"
"เปล่าครับ...ผมแค่จะมายืมรถเข็นของปู่ไปขนของครับ ใช้เสร็จแล้วผมจะรีบเอามาคืน"
"ไอ้วัน...ปู่เอ็งเขากวาดถูห้องที่เองจะมาอยู่เอาไว้ให้แล้วนะ ที่นอนหมอนมุ้งก็เตรียมเอามาตากแดดไว้ให้แล้ว เอ็งเอาน้อง ๆ เอ็งมาอยู่ด้วยกันได้เลย ย่าอนุญาต"
"กลางวันเอ็งไปโรงเรียนปู่ย่าจะช่วยดูมันให้ เอ็งจะเรียนหนังสือให้เต็มที่" สินบอก
"แล้วแม่ล่ะครับ แม่จะไปอยู่ไหน"
"แม่เอ็งก็ให้มันกลับไปอยู่บ้ายยายเอ็งสิ ไอ้วัน"

นั่นไม่ใช่คำตอบที่วันเฉลิมต้องการ
วิมลยืนในรั้วบ้านกับสมฤดี
"พ่อวันไม่น่าปฏิเสธปู่กับย่าเขาหรอกนะ เขาอุตส่าห์จะช่วยดูแลน้อง ๆ ให้พ่อวันแล้ว"
"ผมโยนภาระให้คนอื่นไม่ได้หรอกครับ"
"พ่อวันก็ตั้งใจเรียนหนังสือไป ความจริงน้อง ๆ น่ะ มันหน้าที่แม่เขาต้องดูแลด้วยซ้ำ ไม่ใช่หน้าพ่อวันนะ"
"ไม่ใช้หน้าที่เหรอครับ ก็ผมเป็นพี่"
"จริงอยู่หรอกเป็นพี่ แต่อย่าลืมพ่อวันอายุเท่าไร พี่ก็ช่วยน้องเท่าที่ช่วยได้ เราต้องช่วยตัวเราเองก่อนนะ"
"ก็แสดงว่าผมเห็นแก่ตัว ผมอกตัญญูสิครับ ไม่ช่วยแม่เลี้ยงน้อง"
"พ่อวันเอ๊ย คิดยังงั้นได้รึ กรรมของใครใครก่อใครก็รับผิดชอบเองสิ ทำไมพ่อวันจะต้องไปรับผิดชอบแทนให้ด้วย วันข้างหน้าว่าไปอย่าง ถ้าพ่อวันโตมีงานการทำ จะส่งเงินช่วยแม่เลี้ยงน้องก็อีกเรื่อง"
วันเฉลิมนิ่ง
"พี่วันเอาขนมปังนี่ไปกินนะ เอาไปแบ่งน้อง ๆ พี่วันด้วยก็ได้ หนูสมไม่ว่าอะไรหรอก"
สมฤดียื่นขนมปังหัวกะโหลกที่อยู่ในถุงกระดาษลอดรั้วออกมาให้
วันเฉลิมรับมา
"ขอบคุณครับหนูสม ผมเลยลาคุณยายตรงนี้เลยนะครับ"
"พี่วันผ่านมาแถวนี้ แวะตะโกนเรียกหนูสมด้วยนะ ไปแล้วอย่าลืมกันนะ พี่วัน"
วันเฉลิมฝืนยิ้มให้ สมฤดียื่นมือผ่านรั้วออกมา วันเฉลิมจับมือสมฤดีไว้

วันเฉลิมเตรียมขนของอยู่คนเดียว ทั้งหม้อ, กะละมัง จานชาม กระทะ เตา สารพัดข้างของ อ้อย กับเหน่ง ยื้อแย่งขนมปังหัวกะโหลกกันอยู่ ทั้งคู่ทะเลาะกันจิกหัวกบาลกันไปมา อ้อยกัดเหน่ง จนแหกปากร้อง
"หนวกหูโว้ย มันอะไรกันนักหนาวะ"
วันเฉลิมปลอบน้องทั้งสอง เข้ามาห้ามทับแบ่งขนมปังให้สองฝ่าย
วันเฉลิมนึกถึงคำพูดของวิมล
"คนเราน่ะนะพ่อวัน ช่วยตัวเองยังไม่รอดแล้วจะช่วยคนอื่นได้ยังไง เหมือนพ่อวันว่ายน้ำไม่เป็นแล้วน้องคนนึงตกน้ำลงไป พ่อวันกระโดดลงไปช่วย เลยจมน้ำตายด้วยกันทั้งคู่ แล้วน้องอีกสองคนที่บนฝั่งล่ะ ใครจะพากลับบ้าน เข้าใจที่ยายพูดไหม พ่อวันเอาไปไคร่ครวญเสียให้ดีนะลูก"
วันเฉลิมเข้ามาหาลำยอง
"แม่ครับ วันขนของไปบ้านยายรอบนึงก่อนนะครับ แม่ดูน้องด้วยนะครับ"
"ดูมันทำไม ไอ้พวกบ้า กวนประสาท"
วันเฉลิมยกข้าวของจะเอาไปใส่รถเข็น ร่างหนึ่งวิ่งพรวดพราดเข้ามาในบ้านชนวันเฉลิมจนข้าวของกระจาย หกล้มหกลุก เสียงดังโครมคราม
"โจรปล้น โจรปล้น ช่วยด้วย"
ปานพุ่งพรวดเข้าปิดปากลำยอง
"น้าปาน"

เพิงก๋วยเตี๋ยวลำยง ในเวลาเดียวกัน ยายแลหน้าตาตื่น
"มันหายหัวไปตั้งนานแล้ว จนฉันลืมไปแล้วว่ามันเป็นลูก มันกลับมาครั้งสุดท้ายเมื่อไรว่ะ นังลำยง"
"เดือนที่แล้วได้มั้ง มันมานอนบ้านอยู่คืนนึงแล้วก็ไป"
"ถามว่ามันทำอะไรอยู่ไหนมันก็ไม่ยอมบอก" ลำดวนว่า
"ไอ้ปานมันไปทำอะไรผิดครับ" ชุดถาม
"นายปานกับพวกปล้นร้านขายยา เจ้าทุกข์ถูกแทงอาการสาหัสด้วย" ตำรวจบอก
ยายแลหน้าซีดเผือด ชวนเป็นลม ทุกคนร้องเอะอะตกใจ

ปานบอกวันเฉลิม
"เอ็งห้ามบอกใครว่าข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะหลบอยู่แค่วันสองวันแล้วจะไปที่อื่น"
"ทำไมต้องหลบด้วย น้าปานหนีใครมา"
"เอ็งไม่ต้องรู้หรอก"
"น้าปานอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก"
"ทำไมข้าจะอยู่ไม่ได้"
"ทุกคนกำลังจะย้ายออกไปแล้ว บ้านนี้ถูกยึดแล้ว มันไม่ใช่ของเราแล้ว"
"ไอ้บ้าเอ๊ย"
"น้าปาน"
"มึงหุบปากไอ้วัน กูกำลังใช้ความคิด"
"หลวงตาบอกว่า เราหนีอะไรก็อาจจะหนีได้ แต่เราหนีกรรมของเราไปไม่ได้หรอกน้าปาน"

"ไอ้บ้า...กูเครียดจะตายอยู่แล้วเสือกเอาคำหลวงตามาหลอนกูอีก มึงนะมึง"
"ไอ้ปาน...ไอ้ปาน"
ปาน, วันเฉลิมหันไปมองหน้าบ้านก็ตกใจ ปานพุ่งไปหลบมุมหนึ่งมองผ่านหน้าต่าง
ยายแลตะโกนเรียกอยู่หน้าบ้านเพราะแน่ใจว่าปานต้องหนีมาหลบที่นี่ ตำรวจมากันพร้อมหน้า
"ไอ้ปาน...เองอยู่ข้างไหนใช่ไหม เอ็งออกมาเถอะ มอบตัวซะ ไอ้ปาน เองได้ยินไหม นี่แม่เอ็งตำรวจเขาไม่ทำอะไรเอ็งหรอก ออกมาเถอะ"
ปานสีหน้าเครียดเมื่อเห็นตำรวจ ตัดสินใจอย่างหนัก
"น้าปาน...ยอมรับผิดเถอะ อย่าให้ยายเสียใจไปมากกว่านี้เลย"
"นายปาน....ยอมมอบตัวซะ"
ปานได้ยินเสียงตำรวจ ตัดสินใจพุ่งไปที่กองข้าวของเครื่องครัว หยิบมีดปลายแหลมขึ้นมา
ลำยองเห็นมีดยิ่งสติแตกแหกปากร้อง พรวดพราดวิ่งหนีออกไปจากบ้านทันที
"มันจะฆ่ากู...มันจะฆ่ากู"
"แม่"
ปานตกใจกระโจนหนีออกไปหลังบ้านทันที วันเฉลิมละล้าละลัง
ปานวิงหนีมาได้ไม่ไกล ก็ถูกตำรวจชาร์จตัวจากด้านหลังล้มลงอย่างแรง มีดหลุดมือกระเด็นไป
ปานสิ้นท่าหมดปัญญาขัดขืนถูกคุมตัวกลับออกมา
วันเฉลิมวิ่งออกมาอยู่ข้างแลและลำยง ยายแลฟูมฟาย
"ไอ้ปาน ทำไมมึงไม่ทำมาหากินอย่างคนดี ๆ เขาทำกัน ได้เล็กได้น้อยทำไม มึงไม่รู้จักอดทน จะยากจะจนยังไง มันก็ต้องมีศักดิ์ศรี กูเลี้ยงมึงไม่ดีใช่ไหม กูไม่ได้สั่งสอนมึงใช่ไหม มึงถึงทำมาหาแดกปล้นเขากินยังงี้"
ยายแลทั้งโกรธตัวเองโกรธลูก ตบตีปานไม่ยังมือทั้งน้ำตา ปานได้แต่ก้มหน้ายอมให้แม่ตบตี น้ำตาร่วงเช่นกัน ชั่วขณะหนึ่ง ตำรวจจึงเข้าขวางยายแลและพาตัวปานออกไป
ยายแลร้องไห้โฮ จนลำยงต้องเขาประคองแม่ ลำยองซุกตัวอยู่อีกมุมเมา ๆ มึน ๆ ไม่มีสติ
วันเฉลิมมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสะเทือนใจ ชีวิตทุกคนรอบตัวมีแต่ตกต่ำสู่ความทุกข์

ปั้นรู้เรื่องก็แสดงความเห็นกับสิน
"มาเสียใจเอาตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว ลูกเต้าน่ะมันต้องอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เล็ก ๆ ผิดก็ต้องตีมันจะได้รู้จักหลาบจำ คนเป็นพ่อเป็นแม่ให้ท้ายลูก ส่งเสริมแต่ความคิดชั่ว ๆ เห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ สุดท้ายมันก็เป็นอย่างอีแลนี่แหละ"

อ่านละครเรื่อง ทองเนื้อเก้า วันที่ 5/2 พ.ย. 56

ละครทองเนื้อเก้า บทประพันธ์โดย : โบตั๋น
ละครทองเนื้อเก้า บทโทรทัศน์โดย : ยิ่งยศ ปัญญา
ละครทองเนื้อเก้า กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครทองเนื้อเก้า ผลิตโดย : บริษัท แอค-อาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด
ละครทองเนื้อเก้า ควบคุมการผลิตโดย : ธัญญา โสภณ
ละครทองเนื้อเก้า ละครแนว : ดราม่าเข้มข้น
ละครทองเนื้อเก้า ออกอากาศทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา เดลินิวส์