อ่านละครเรื่อง ทองเนื้อเก้า วันที่ 6/2 พ.ย. 56

อ่านละครเรื่อง ทองเนื้อเก้า วันที่ 6/2 พ.ย. 56

เสียงกรีด ร้อง เสียงเคาะถังกาละมัง ส่งสัญญาณเตือนภัย สินงัวเงียตื่นขึ้น ลุกขึ้นนั่งฟังเสียงอึกทึกแล้วมุดมุ้งออกมาดูที่หน้าต่าง ไฟกำลังไหม้ลามอยู่บ้านถัดไป 2-3 หลัง ลุกโชนน่ากลัว
สินรีบวิ่งกลับมาที่ปั้น
"แม่ปั้น เร็วเข้า..ไฟไหม้"
ปั้นตกใจตื่นมุดมุ้งออกมา

วันเฉลิมวิ่งออกมาหน้าบ้านยายแลเพราะเสียงโหกเหวกอึกทึก ชาวบ้านวิ่งกันอลหม่าน ลำยง, ลำดวนหน้าตื่นยืนอยู่หน้าบ้านอยู่แล้ว
"อะไรครับ น้าลำยง"


"เขาว่าไฟไหม้"
แลมุดออกมาจากในบ้านพอดี
ยายแลชะเง้อมอง
"ไฟไหม้ที่ไหน"
"พี่ชุดไปดูอยู่แม่ น่าจะแถวนี้แหละ"
"ฉิบหายแล้ว มันจะมาถึงเราไหมวะ" แลว่า
ชุดวิ่งหน้าตื่น เข้ามา
"ว่าไงพี่ชุด ไหม้ที่ไหน"
"บ้านยัยชู ลามไปหลายหลังแล้ว"
"ชูไหนวะ มันมีหลายชูนะมึง"
"ชูปากเสียไงแม่ บ้านใกล้ๆแพป้าปั้นลุงสินน่ะ" ชุดบอก
วันเฉลิมใจหายวาบ
"ไฟมันจะมาถึงเราไหม"
"มีสิทธ์...ลมมันแรง ช่วยกันขนของเหอะ" ชุดบอก
วันเฉลิมตัดสินใจวิ่งออกไปทันที
"แม่รีบไปปลุกพ่อก่อนเลย" ลำดวนบอก
"ไอ้วันรีบไปปลุกแม่เอ็งเอาน้องๆเอ็งมันออกมาก่อน ..ไอ้วัน" ลำยงบอก
วันเฉลิมวิ่งสวนผู้คนออกไปไกลแล้ว ชาวบ้านอลหม่านกันไปทั้งสลัม
"ไอ้ปอ...ไอ้ปอ"

ชาวบ้านขนข้าวของกันอลหม่าน บางคนแบกตุ่มทั้งใบวิ่งตัวปลิว บางคนหิ้วน้ำวิ่งไปสาดดับไฟ
วันเฉลิมวิ่งมุดฝ่าผู้คนเข้ามา แสงไฟไหม้ลุกโชนวาบๆร้อนจนต้องยกมือขึ้นป้องหน้า
วันเฉลิมตะโกนเรียก
"ปู่ครับ....ย่าครับ"

วันเฉลิมวิ่งอ้อมไปทางหนึ่ง ยังไงก็ต้องไปให้ถึงเรือนแพย่าให้ได้
สินยกขนของออกมากองบนเรือนแพ ปั้นยกหีบไม้ใส่ของมีค่าเข้ามาวางรวมกัน
"ตาสิน... บนห้องยังมีหีบอีกใบนึงใต้เตียง"
"ไม่ทันแล้วล่ะแม่ปั้น ไฟมันลามมาแล้ว"
"หีบนั่นนะเก็บเงินกับทองของไอ้วันมัน ยังไงฉันต้องขึ้นไปเอา"
ปั้นจะลุยกลับไปให้ได้ แต่สินดึงเอาไว้
"แม่ปั้นอยู่นี่ ฉันไปเอง แม่ปั้นเฝ้าของไว้นะ"
สินลุยฝ่าควันไฟออกไปปั้นคว้าถังน้ำจะตักน้ำคลองมาสาดกันไฟ วันเฉลิมวิ่งลงเรือแพมา
"ย่าครับ"
"ไอ้วัน เอ็งมาทำไม"
"ไฟลามมาใหญ่แล้ว ย่าหนีออกไปที่ถนนเถอะครับ"
ปั้นตะโกน
"ตาสิน...ตาสิน"
"ปู่ล่ะครับ"
"ปู่เอ็งขึ้นไปเอาของ"
ไฟโหมลามมารุนแรง
"ปู่ครับ"
วันเฉลิมวิ่งฝ่าควันไฟตามสิน

ไฟโหมไหม้เต็มข้างฝาด้านนึง ควันไฟแน่นคลุ้งไปหมด สินพยายามฝ่าความร้อน ควันไฟเข้ามาจนถึงใต้เตียง แล้วลากหีบออกมาได้ พักวางไว้กลางห้อง สินพุ่งไปที่หิ้งพระ คว้าพระพุทธรูปบนหิ้งจะอัญเชิญไปด้วย วันเฉลิมตามเข้ามาพอดี
"ปู่..."
"เอ็งอุ้มพระไว้ไอ้วัน ปู่จะไปยกหีบ"
วันเฉลิมรับพระพุทธรูปมาอุ้มไว้ สินจะย้อนกลับไปเอาหีบ ข้างฝาไฟลุกท่วมพะเยิบ กำลังจะพังลงมาทั้งฝา
"ปู่"
วันเฉลิมฉุดดึงสินเอาไว้ได้ทัน ผนังไม้ไฟไหม้พังล้มลงมาทั้งฝา สินกับวันเฉลิมต้องถอยหนีออกไป หีบยังคงอยู่ในกองเพลิง

ปั้นร้องไห้โฮ ไฟไหม้บ้านส่วนที่ปลูกบนฝั่งอย่างไม่ปราณี
"หมดกันคราวนี้ หมดกัน ไม่มีอะไรเหลือเลย"
"ฉันขอโทษนะแม่ปั้น ฉันเอาหีบใบนั้นออกมาให้แม่ปั้นไม่ได้"
ปั้นร้องไห้ปานจะขาดใจ
"ย่าครับ อย่าไปเสียดายมันเลยครับ ช่างมันเถอะครับ"
"เงินกับทองในหีบนั่น มันของเอ็งทั้งนั้นไอ้วัน ปู่กับย่าพ่อเอ็งเก็บออมเอาไว้ให้เอ็งเป็น
ทุนเรียนหนังสือหมดกันคราวนี้ ไม่เหลืออะไรเลย"
ปั้นฟูมฟายน้ำตานอง สินป้ายน้ำตาทิ้ง เจ็บปวดที่เอาหีบใบนั้นออกมาไม่ได้ วันเฉลิมได้แต่กุมมือปั้นเอาไว้ ปลอบใจด้วยภาษากาย

ชาวบ้านวิ่งกันอลหม่าน ขนของออกจากบ้านตัวเอง บางคนสาดน้ำใส่บ้านไว้ให้เปียกกันไฟ
ยายแลเฝ้าอ้อย-เหน่ง-จิตราอยู่ เหนื่อยหอบทรุดลงหมดแรง
"หมดรึยังไอ้ชุด มีอะไรอีกไหม"
ลำยองนั่งแบะเมาไม่รู้สึกอะไรกับใคร
"เหลือแต่ตู้ใบใหญ่ๆแม่"
"ช่างหัวมันเหอะ มันจะไหม้ก็ให้มันไหม้ไป แค่นี้ก็เหนื่อยจนจะรากเลือดแล้ว" ลำดวนบอก
"เหล้ากูอยู่ไหนวะ ใครขโมยเหล้ากูไป"
"โธ่...อีบ้านี่ เขาจะเป็นจะตายกันอยู่เนี่ย มึงยังห่วงเหล้ามึงอยู่อีก" แลว่า
ตาปอหิ้วน้ำใส่ถังมาสาดใส่คนโน้นคนนี้
"อะไรของมึงไอ้ปอ"
"เล่นน้ำสงกรานต์โว้ย เล่นน้ำสงกรานต์"
"กูอยากจะบ้าตาย"

"ไอ้วันล่ะ ใครเห็นไอ้วันบ้าง" ลำยงถาม
ชาวบ้านยังร่วมแรงร่วมใจกันสาดน้ำดับไฟจนสงบลงไปมากแล้ว ชาวบ้านอีกกลุ่มช่วยกันรื้อไม้บางส่วนเป็นจุดเชื่อมไฟออกตัดตอนไม่ให้ไฟลาม
ปั้นกับสินหมดแรงทรุดลงแทบกองกับพื้นข้าวของที่ขนหนีไฟมาได้สุมกองพะเนิน วันเฉลิมวิ่งหิ้วถังน้ำเปล่ากลับมาเพื่อจะตักน้ำใหม่ไปสาดดับไฟ
"ไอ้วัน...พอเถอะ"
"ไฟไม่ลามไปทางโน้นแล้วครับปู่"
"เอ็งต้องเรียนหนังสือต่อไปน่ะไอ้วัน จะจนจะยากยังไงก็ต้องเรียน ได้เท่าไรก็เรียนเข้าไป เอาให้จบมหาวิทยาลัยได้ยิ่งดี เอ็งจะได้มีวิชาความรู้ไว้เลี้ยงตัว รับปากปู่นะว่า เอ็งจะเรียนต่อ"
วันเฉลิมพูดไม่ออกไม่กล้ารับปาก
"อย่าไปเสียดายมัน ไม่ตายก็หาใหม่ได้...ห้องหับเอ็งเดี๋ยวปู่จะซ่อมให้ใหม่เอ็งเอาน้อง ๆ เอ็งมาอยู่ที่นี่นะไอ้วัน"
วันเฉลิมไม่ยอมรับปากอีก
"เอ็งอย่าน้อยใจในโชคชะตาวาสนาของเอ็ง คุณค่าของความเป็นคนไม่ได้อยู่ที่ใคร แล้วก็ไม่มีใครมลักขโมยช่วงชิงจากเอ็งได้เหมือนกัน เอ็งสร้างมันได้ด้วยตัวเอ็ง แล้วมันก็จะอยู่กับเอ็งตลอดไป เหมือนทองคำไงไอ้วัน ไม่ว่าจะยังไง ทองก็ยังเป็นทองอยู่วันยันค่ำ ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงลดคุณค่าในตัวมันเองได้หรอก"

วันเฉลิมใช้ไม้เขี่ยซากกองไม้ ข้าวของที่ถูกไฟไหม้ ได้ข้าวของบางอย่างออกมา มันคือม้าโยกไม้ที่สินทำให้วันเฉลิมเล่นตอนเด็ก ๆ ม้าโยกไม้ถูกไฟไหม้จนแทบจะไม่เหลือสภาพเดิม วันเฉลิมได้แต่มองสมบัติที่โดนไฟไหม้
ปั้นถือขันน้ำดื่มเข้ามาหาสินที่ขยับลงนั่งที่เก้าอี้โยก
"กินน้ำซะ ตาสิน"
"ขอบใจ แม่ปั้น"
สินรับขันน้ำมาดื่ม
"เหนื่อยก็นั่งพักก่อนก็ได้ ฉันจะไปคุ้ยดูของหน่อย เผื่อจะเหลืออะไรบ้าง"
ปั้นจะขยับออกมา
"แม่ปั้น"
"แกจะเอาอะไร"
"ฉันอยากให้ไอ้วันมันได้บวช"
"โตอีกหน่อยเดี๋ยวมันก็ได้บวชเองแหละ"
"ฉันอยากให้มันบวชซักพรรษานึง แต่ตัวเองคงไม่มีวาสนาได้เห็นชายผ้าเหลืองหลานหรอก"
สินเห็นวันเฉลิมคุ้ยเขี่ยข้าวของไฟไหม้อยู่มุมหนึ่ง
"พูดอะไรยังงั้นตาสิน ไอ้วันมันเป็นคนดี ถึงมันไม่ได้บวชให้ปู่ย่าได้อาศัยเกาะชายผ้าเหลือง แกก็สบายใจเถอะ จะหาเด็กที่ไหนมีน้ำใจอย่างไอ้วันมันล่ะ"
"ฉันไม่ได้อยากอาศัยเกาะชายผ้าเหลืองลูกหลานขึ้นสวรรค์หรอกแม่ปั้น ที่อยากให้มันบวชเพราะคิดว่าจะช่วยให้ไอ้วันมันพ้นทุกข์ได้บ้าง ทำใจได้บ้างที่มีแม่อย่างนี้... กรรมเก่าของมันช่างมากนัก บวชแล้วอาจจะช่วยให้จิตใจมันสงบทนทุกข์ทรมานได้ดีขึ้นต่างหาก พระศาสนาจะทำให้ไอ้วันมันเป็นคนเต็มคนนะแม่ปั้น"
"มันบวชได้ก็ดี ฉันก็เห็นด้วย"
"เสียด้าย...เงินในหีบนั่น น่าจะได้ใช้บวชไอ้วันมัน วอดหมดแล้ว"
"เอาเถอะน่า...ไม่ตายก็หาใหม่ได้"
"แม่ปั้นช่วยเป็นธุระจัดการแทนฉันด้วยนะ ถ้าฉันไม่มีวาสนาได้อยู่เห็นไอ้วันมันสุขสงบอยู่ในผ้าเหลืองน่ะ"
"พูดอะไรอย่างนั้นตาสิน แกยังแข็งแรงดีแท้ ๆ"
"ถ้าไอ้วันมันได้บวช นังลำยองมันคงไม่กล้ารบกวนพระเจ้าหรอก ไม่ได้เรียนทางโลกก็เรียนทางธรรมแทนก็แล้วกันนะ แม่ปั้นนะ"
"เออ....แกไม่ต้องห่วงหรอกตาสิน ยังไงฉันก็ต้องหาทางแยกไอ้วันมันออกมาจากแม่ของมันให้ได้"
สินยิ้มที่ปั้นอยู่เคียงข้างเป็นคู่ชีวิตมาจนถึงวันนี้
"ขอบใจมากแม่ปั้น...ขอบใจมาก"
"มาขอบอกขอบใจอะไรตอนนี้ รอให้แยกไอ้วันมันออกมาได้จริงๆ ซะก่อนเหอะ"
วันเฉลิมคุ้ยของในซากไหม้ไฟเป็นตอตะโก แล้วชะงักเพราะเห็นบางสิ่ง
"ย่าครับ...ย่า"
ปั้นเข้ามา
"อะไรไอ้วัน"
วันเฉลิมใช้ไม้เขี่ยบางสิ่งออกมาจากกองขี้เถา ปั้นมองดูสิ่งนั้นอย่างสนใจ และค้นพบว่ามันคือ...
ปั้นกลับเข้ามาที่สินซึ่งนั่งหลับสบายอยู่บนเก้าอี้โยก
"ตาสิน ตาสิน แกดูอะไรนี่สิ"
ปั้นแบมือให้สินดูทองที่ถูกไฟไหม้จนละหลอมละลายกลายเป็นก้อน
"ทองที่อยู่ในหีบนั่นไงตาสิน เงินน่ะไฟไหม้ไม่มีเหลือเลย แต่แกดูสิ ทองมันยังอยู่ แกได้บวชไอ้วันมันสมใจแกแล้ว ตาสิน...เก็บไว้ที่แกก่อนนะ ฉันจะไปคุ้ยดูของ เผื่อเจออะไรอีก"
ปั้นเอาก้อนทองใส่มือสินแล้วจะผละออกไป ก้อนทองร่วงหลุดออกมาจากมือสิน ปั้นชะงัก สินเหมือนหลับแต่หน้าเปื้อนรอยยิ้มอย่างไม่มีความทุกข์ความกังวลใด ๆ
"ตาสิน...ตาสิน"
ปั้นจับมือสิน...แล้วรู้สึกได้ถึงความเย็นชืด...ปราศจากชีพจร ปั้นกระชับบีบมือสินอย่างต้องการให้แน่ใจ
"ตาสิน ... ไอ้วัน ไอ้วัน"
วันเฉลิมวิ่งกลับเข้ามา เนื้อตัวมอมแมม
"ครับย่า"
ปั้นพูดอะไรไม่ออก น้ำตาร่วงพรูแทนคำตอบทั้งหมด วันเฉลิมขยับเขย่าตัวสิน
"ปู่ครับ ปู่"
ปั้นร้องไห้โฮ วันเฉลิมเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น สินที่สิ้นลมอย่างสงบ ใบหน้าเหมือนคนหลับอย่างมีความสุข

เวลารุ่งสาง ชุด, ลำยง, ลำดวน ช่วยกันขนของบางอย่างกลับเข้าที่อย่างหมดเรี่ยวหมดแรง
"พอเหอะไอ้ชุด เดี๋ยวก็ลมจับกันเปล่า ๆ" แลบอก
วันเฉลิมเดินกลับเข้ามา
"ไอ้วัน เอ็งหายไปไหนมา ใครต่อใครเขาเป็นห่วงกันจะแย่" ลำยงถาม
"ผมไปช่วยปู่กับย่าขนของครับ"
"ไปช่วยมัยทำไม อ๋อ...มึงอยากจะเสนอหน้าไปให้มันเห็นว่า มึงกตัญญูรู้คุณยังงั้นเหรอ ถ้ามึงหวังจะได้สมบัติมันน่ะนะไอ้วัน มึงฝันไปเหอะ มันเอาไปให้ลูกกับเมียใหม่พ่อมึงหมดแล้ว"
"มึงหุบปากไปเลยอีลำยอง ไม่งั้นกูจะเอาเกือกนี่ยัดปากมึง" แลบอก
"ก็คนอื่นเขาขนของกันจะเป็นจะตาย มันสาระแนไปช่วยอีปั้นทำไม"
"แล้วมึงล่ะช่วยขนเหรอ...เมาข้ามวันข้ามคืน ถ้าไฟมันลามมาจริง ๆ กูจะปล่อยมึงให้ไฟครอกตายในบ้านนี่แหละ"
ตาปอถูกปลุกความคิดอีกครั้ง ฉวยข้าวของจะขนออกไปนอกบ้าน
"อีแล...ขนของสิวะ ขนของ ไฟลามมาแล้วมึง"
"พ่อ...ไฟมันดับหมดแล้ว" ลำดวนบอก
"ปล่อยมัน หมดแรงเดี๋ยวมันก็เลิกเอง" แลบอก
ตาปอวิ่งอลหม่านอยู่คนเดียว
"แล้วบ้านปู่ย่าเอ็งเป็นยังไงวะไอ้วันโดนไหม"
"โดนเยอะเหมือนกันครับ"
"สมบัตินอกกาย หาเมื่อไหร่ก็หาได้ รักษาตัวให้รอดปลอดภัยออกมาได้ก็บุญแล้ว

วันเฉลิมนิ่งเงียบ
"ไฟมันน่าจะครอกให้ตายโหงตายห่ากันให้หมด" ลำยองบอก
"อีลำยอง...ปากมึงนี่" แลว่า
"ยายครับ...ปู่ตายแล้วครับ"
"เอ็งว่าอะไรนะไอ้วัน" ลำยงถามย้ำ
ทุกคนนิ่งงัน
"ปู่ตายแล้ว น้าลำยง"
ลำยองหัวเราะเสียงดังออกมาด้วยความสะใจ
"สาแกใจกูจริง ๆ มันทำกะกูเอาไว้มาก มึงเห็นไหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง เป็นไปอย่างที่กูแช่งเอาไว้ทุกอย่างเลย มันตายยังไงวะ ไอ้วัน ไฟครอกดำเป็นตอตะโกเลยใช่ไหมวะ แหม....มันน่าจะตายห่าไปด้วยกันทั้งคู่เลยนะ ยังงี้มันต้องเลี้ยงโต๊ะจีนกันแล้วโว้ย"
วันเฉลิมค่อย ๆ ลุกเดินหนีออกไป แต่ละคนค่อย ๆ เดินออก ทิ้งลำยองพล่ามอยู่คนเดียว

หลวงตาปิ่นที่นั่งงันไปอึดใจเมื่อรู้ข่าว อดใจหายไม่ได้
"เห็นกันอยู่หลัด ๆ แท้ ๆ ...โยมสิน"
วันเฉลิมนั่งก้มหน้าอยู่มุมหนึ่ง ชุดนั่งประนมมือ
"ไอ้ชุด เอ็งไปบอกท่านเจ้าอาวาสซะ จะได้จับจองศาลา ข้าวของอะไรจะต้องใช้ก็ไปเปิดกุดังเอา จะเคลื่อนศพมากี่โมง จะตั้งสวดกี่คืนก็บอกท่านไว้ซะ"

อ่านละครเรื่อง ทองเนื้อเก้า วันที่ 6/2 พ.ย. 56

ละครทองเนื้อเก้า บทประพันธ์โดย : โบตั๋น
ละครทองเนื้อเก้า บทโทรทัศน์โดย : ยิ่งยศ ปัญญา
ละครทองเนื้อเก้า กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครทองเนื้อเก้า ผลิตโดย : บริษัท แอค-อาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด
ละครทองเนื้อเก้า ควบคุมการผลิตโดย : ธัญญา โสภณ
ละครทองเนื้อเก้า ละครแนว : ดราม่าเข้มข้น
ละครทองเนื้อเก้า ออกอากาศทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา เดลินิวส์